-

***

17 พ.ย. 2554

คิดถึง...


หลับตาลงยังรู้สึก ท่ามกลางความอ้างว้างในหัวใจ
ค่ำคืนยาวนาน กับความเดียวดาย และลมหายใจที่ว่างเปล่า

อยากให้เธอได้สัมผัส กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป

ว่าทุกเวลา ที่เราห่างกันแสนไกล ยังมีอีกคำในหัวใจ
ที่จะบอกเธอ ให้เธอได้รู้และเข้าใจ
ว่าคิดถึงเธอ เมื่อเราห่างกันแสนไกล มีคำหนึ่งคำจะพูดไป
ให้เธอได้รู้ จะแทนความหมายความห่วงใย ฉันคิดถึงเธอ

อยากให้เธอได้สัมผัส กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป

อยากให้เธอได้สัมผัส กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ที่กล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป

ว่าทุกเวลา ที่เราห่างกันแสนไกล ยังมีอีกคำในหัวใจ
ที่จะบอกเธอ ให้เธอได้รู้และเข้าใจ
ว่าคิดถึงเธอ เมื่อเราห่างกันแสนไกล มีคำหนึ่งคำจะพูดไป
ให้เธอได้รู้ จะแทนความหมายความห่วงใย ฉันคิดถึงเธอ

ก็ฉันมีเพียงเธอ

มันคงเป็นความรัก.......



มันคงเป็นความรัก ที่ทำให้ตัวฉัน ยังยืนอยู่ตรงนี้
มันคงเป็นความรัก ที่ทำให้ใจฉัน ไม่ยอมหยุดเสียที

แม้ว่ามันไม่มีโอกาส แม้ว่าฉันต้องพลาดไปอีกสักที
แต่ว่าความรัก ก็ยังขอให้ฉันทำแบบนี้

ที่จะให้เธอจนกว่าเธอจะรับ บอกรักเธอจนกว่าเธอนั้นจะยอม
เธอคือความสุขของฉัน ถ้าเธอไม่รับมัน ให้ฉันเริ่มต้นอีกกี่ครั้งก็พร้อม
หากสุดท้ายเธอไม่เปลี่ยนใจ ไม่เป็นไรใจฉันก็ไม่ยอม
ถ้ารอให้ฉันหยุดหัวใจ คงต้องรอให้โลกหยุดหมุนไปก่อน

มันคงเป็นความรัก ที่มีคำว่าชีวิต เลยฟังดูมีความหมาย
มันคงเป็นความรัก ที่ทำให้การรอคอย เป็นเรื่องง่ายดาย

แม้ว่ามันไม่มีโอกาส แม้ว่าฉันต้องพลาดอะไรมากมาย
แต่ว่าการรอคอยนี้ก็คุ้ม เพราะมีเธอเป็นจุดหมาย
จะให้เธอจนกว่าเธอจะรับ บอกรักเธอจนกว่าเธอนั้นจะยอม
เธอคือความสุขของฉัน ถ้าเธอไม่รับมัน ให้ฉันเริ่มต้นอีกกี่ครั้งก็พร้อม
หากสุดท้ายเธอไม่เปลี่ยนใจ ไม่เป็นไรใจฉันก็ไม่ยอม
ถ้ารอให้ฉันหยุดหัวใจ คงต้องรอให้โลกหยุดหมุนไปก่อน

ในวันที่เธอนั้นไม่มีใคร ในวันที่โลกนี้ทิ้งเธอไป
ในวันนั้นหันมามองเถอะ ฉันจะยืนอยู่ตรงนี้

และจะให้เธอจนกว่าเธอจะรับ บอกรักเธอจนกว่าเธอนั้นจะยอม
เธอคือความสุขของฉัน ถ้าเธอไม่รับมัน ให้ฉันเริ่มต้นอีกกี่ครั้งก็พร้อม
หากสุดท้ายเธอไม่เปลี่ยนใจ ไม่เป็นไรใจฉันก็ไม่ยอม
ถ้ารอให้ฉันหยุดหัวใจ ถ้ารอให้ฉันหันหลังเดินลับหายไป
ได้ยินไหม…… คงต้องรอให้โลกหยุดหมุนไปก่อน……

มันคงเป็นความรัก

ความเหงาโทรเข้ามา..




เธอพอมีเวลาบ้างหรือเปล่า อยู่กับเขาตลอดใช่ไหม
ถ้าวันหนึ่งที่เธอไม่มีใคร ช่วยอะไรได้ไหมสักครั้ง

สักนาทีที่ฉันได้ฟังเสียงของคนคนที่ยังรัก
มันคงไม่ลำบากอย่างที่แล้วแล้วมา
เธอมีเขาคอยโทรมา แต่ว่าฉันมันไม่มีมีแค่เพียง

ความเงียบเหงามันโทรเข้ามาเวลาที่คิดถึงเธอ
สิ่งที่ฉันจำเป็นต้องเจอเธอคงไม่เคยรับรู้
อยู่ตรงนี้ไม่มีเสียง ได้ยินแต่เพียงเสียงหยดน้ำตา
ความเงียบเหงาที่เธอไม่มี ยินดีด้วยที่ไม่เจอ

ถ้าหากฉันไปรบกวนเธอ เธอคงจะไม่ถือสา
โปรดเถอะช่วยโทรกลับมา คิดเสียว่าเราเคยรักกัน

ไม่เคยกวนให้เธอต้องมาเจอ ไม่ต้องการให้เธอเสียหาย
ถ้าบังเอิญมันดูมากเกินไป ให้อภัยได้ไหมสักครั้ง
สักนาทีที่ฉันได้ฟังเสียงของคนคนที่ยังรัก
มันคงไม่ลำบากอย่างที่แล้วแล้วมา
เธอมีเขาคอยโทรมา แต่ว่าฉันมันไม่มีมีแค่เพียง

ความเงียบเหงามันโทรเข้ามาเวลาที่คิดถึงเธอ
สิ่งที่ฉันจำเป็นต้องเจอเธอคงไม่เคยรับรู้
อยู่ตรงนี้ไม่มีเสียง ได้ยินแต่เพียงเสียงหยดน้ำตา
ความเงียบเหงาที่เธอไม่มี ยินดีด้วยที่ไม่เจอ

ถ้าหากฉันไปรบกวนเธอ เธอคงจะไม่ถือสา
โปรดเถอะช่วยโทรกลับมา คิดเสียว่าเราเคยรักกัน

ความเงียบเหงาที่เธอไม่มี ยินดีด้วยที่ไม่เจอ
ถ้าหากฉันไปรบกวนเธอ เธอคงจะไม่ถือสา
โปรดเถอะช่วยโทรกลับมา คิดเสียว่าเราเคยรักกัน

ภาพปั่น

18 ต.ค. 2554

เข้าใจทุกข์อย่างซื่อตรง...




เมื่อใดที่เราเข้าใจถึงความทุกข์อันถ่องแท้ เห็นความทุกข์แจ่มแจ้งชัดเจน

เมื่อนั้นแล้วทุกข์ก็จะหยุดมาเยี่ยมเยียน ทุกข์ก็จะกลายเป็นประตูสู่แดนนิพพานแต่มนุษย์ไม่ยอมเห็นสักทีแม้เราจะพูดถึงคำนี้แล้วเราก็ยังหวาดหวั่นและกลัวกับความทุกข์อยู่ดี ทุกข์น่ากลัวหรือ (น่ากลัว)ทั้งที่รูปร่างทุกข์มีหรือเปล่า (ไม่มี) ทำร้ายเราเจ็บไหม (เจ็บ) ไม่มีรูปร่างแล้วทำร้ายเจ็บไหมน่าจะไม่เจ็บใช่หรือไม่ แต่ใจเราชอบไปขวางทุกข์เราขอยกตัวอย่างง่ายๆ หากทุกข์มา ใจเราก็เหมือนอยากลองดี โดนสักหน่อยจะเป็นไร ใช่หรือไม่ เขาไม่รักก็น่าจะทำใจว่าช่างเขาเถอะ แต่ก็ยังดื้อดึงจะให้เขารักจนได้ แล้วเป็นอย่างไร ก็เป็นทุกข์ใช่หรือไม่

อย่าลืมว่า ฟ้ามักจะตัดส่วนที่เกินและเพิ่มส่วนที่ขาด

ฉะนั้นอะไรที่มันเกินออกจากใจเรา เขาไม่ต้องการ เรารีบตัดเสีย อย่าให้คนอื่นตัดเลยถูกไหม คนอื่นตัดเราเจ็บ เราตัดเสียแต่เนิ่นๆ เราจะไม่เจ็บมากเท่าไร เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราต้องมีความเข้าใจและเชื่อมั่น แต่เข้าใจและเชื่อมั่นตัวนี้หรือใจนี้ดี (ตัว, ใจ)

ทำไมต้องเชื่อมั่นทั้งตัวนี้และใจนี้ล่ะ

คนที่สู้รบปรบมือไม่ใช่กายแต่คือใจใช่หรือไม่ คนที่รับว่าสุขหรือทุกข์ไม่ใช่กายแต่คือใจก่อน ฉะนั้น ให้กายเป็นนาย ใจเป็นบ่าวได้ใหม (ไม่ได้) ใจต้องเป็น (นาย) กายต้องเป็น (บ่าว) เมื่อใจเป็นนาย เราก็ต้องรักนายของเราและเชื่อมั่นในนายของเรานี้ นายของเรานี้ต้องมีอะไรต่อสู้กับทุกข์ (มีขันติ อดทน ความทุกข์เป็นบ่อเกิดของปัญญา) เอาใจไปสู้กับทุกข์อย่างไร

เมื่อสักครู่เราบอกต้องเข้าใจและเชื่อมั่นใจของเราใช่หรือไม่

เข้าใจอะไร เข้าใจตนเองหรือเข้าใจผู้อื่นหรือเข้าใจสถานการณ์ที่ต้องเจอ (เข้าใจทุกอย่าง) ถูกต้อง ต้องเข้าใจทุกอย่าง แล้วเชื่อมั่นอะไร(เชื่อมั่นใจของเรา) เชื่อมั่นในใจของเราว่า หากเราเข้าใจแล้วเราย่อมสามารถเอาชนะทุกข์ได้ หากเรามองออกแล้ว เราย่อมมีปัญญาเอาชนะทุกข์ได้ แก้ไขทุกข์ได้ การแก้ไขนั้นแก้อย่างไร ให้ใจนี้ออกไปทางสร้างสรรค์ เมื่อยามทุกข์มาเราต้องยิ้มสู้ เมื่อยามลำบากมาเราต้องฮึดสู้

แต่ความเชื่อมั่นและความเข้าใจจะเกิดได้ด้วยจิต

จิตนั้นต้องชื่อตรง เรามักจะใจลำเอียง ใจเบี่ยงเบน ใจที่มีความรู้แบบเข้าข้างตัวเองทำให้แม้ใจสู้ก็กลับเอาชนะทุกข์ไม่ได้ เพราะสิ่งที่เราเข้าใจนั้นบิดเบี้ยวเพราะว่าที่เราตัดสินว่าทางนี้คือทางออก เป็นทางที่เราเข้าข้างตนฉะนั้นถึงแม้จะพูดมาทั้งหลายทั้งมวล เริ่มต้นก็คือใจต้องสะอาด บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเจอสิ่งใด ไม่ว่าจะเจอคนแบบไหน ไม่ว่าจะเจออุปสรรคมากมายเพียงใด เรากลับมายืนแล้วมองที่ใจด้วยความสะอาด บริสุทธิ์ และซื่อตรงเป็นหลัก

ทำไมเขาจึงว่าเราเช่นนี้ ทำไมเราจึงทุกข์เช่นนี้

ลองหยุดมองที่ใจของเราดู ใจเราเอียงไหม ใจเราเห็นแก่ตัวหรือเปล่า ใจเรายึดมั่นเกินไปไหม ใจเรารักตัวเองมากเกินไปหรือเปล่า ใจเราเกลียดเขาหรือไม่ เมื่อความชื่อตรงมีอยู่ในใจ ความเข้าใจจะแจ่มชัด เมื่อความเข้าใจแจ่มชัด ความมุ่งมั่นหรือการจะทำสิ่งใดย่อมมีอันสำเร็จได้

ฉะนั้นก่อนจะไปเจอทุกข์ ก่อนจะไปเจอสุข ก่อนจะไปเจอเรื่องราวโลกหลายหลากนั้น สำคัญที่สุดคือผู้นำของเรา ผู้นำที่เรายกให้เป็นนายของเรานี่แหละ มีความชื่อตรงไหม มีความเคารพผู้อื่นหรือเปล่า และมีความยุติธรรมมากเพียงใด หากเราเข้าใจได้ถึงเท่านั้นจะก้าวไปทางซ้ายก็ไม่ต้องกลัว จะก้าวไปทางขวาก็ไม่ต้องหวาดหวั่น เขาจะว่าแรงจะว่าเบาเขาจะชมมากชมน้อย เราจะยืนได้อย่างถูกต้อง และก้าวเดินได้อย่างสง่างามจริงไหม

สิ่งที่เรากล่าวมานี้ก็คือสิ่งที่ท่านประสบเราเองก็เคยประสบมาก่อนแต่เมื่อเราเจอแล้วเราไม่นิ่งเฉย

เราพยายามคิดหาทางทะลุทะลวงออกไปให้จงได้ และเมื่อเราทะลุทะลวงออกไปได้ เรากลับพบประตูแห่งแดนนิพพาน ประตูแห่งการหลุดพ้นที่ไม่ต้องทุกข์อีกต่อไป เราจึงรักทุกข์ตั้งแต่วันนั้นและตลอดไป

วันนี้พูดถึงทุกข์ทีไรก็ยังรักทุกข์อยู่และอยากขอบคุณทุกข์จริงๆ

เพราะ ทุกข์ทำให้เรารู้ว่าอะไรคือความสุขที่แท้จริงและอะไรทำให้เราได้เป็นพุทธะแต่ท่านยังมองไม่เห็นสักทีเจอทุกข์ทีไรก็ถอยหลังก่อน เจอทุกข์ทีไรก็ไม่เอาแล้ว

ชีวิตนี้ท่านอย่ายอมแพ้

ต้นไม้ถูกบิดผลไปหนึ่งผล แล้วมีผลต่ออีกไหม เด็ดไปหนึ่งใบยังมีใบต่ออีกไหม แล้วเจ็บแค่นี้ทำไมถึงกลัว เจ็บแค่นี้ต้องสู้อีกต่อไปใช่หรือไม่ แต่สู้อย่างคนที่เข้าใจและมีบทเรียนสอนใจ อย่ากลัวทุกข์จะกลัวก็กลัวสุขดีกว่า เพราะสุขทำให้เราหลง ทำให้เราคิดว่าเราเก่งทำให้เราคิดว่าเราแน่ เราถูกเสมอ ไม่มีใครถูกกว่าเราแล้ว และบางครั้งสุขยังทำให้เราไม่อยากจะทุกข์ แล้วอะไรที่ทำให้ท่านทุกข์ บอกเราบ้างได้ไหม เผื่อเราจะช่วยแก้ใด้ อะไรที่ทำให้ท่านทุกข์ ความรู้ทำให้ทุกข์ไหม

บอกรักแบบนี้สิโดน...



หลายคนคงคิดหา “สื่อ” บอกรัก วุ่นวายไปหมด แต่คุณรู้หรือเปล่าว่า สื่อไหนๆ ก็ไม่โดน...เท่ากับคำบอกรักหรือ การบอกให้คนที่คุณกำลังรักรู้ใจ เข้าถึงความรู้สึกหรอกค่ะ . . . นี่คือส่วนหนึ่งของคำบอกรักที่รับรองโดนใจแน่นอน

ส่วนจะโดนแบบเขาตอบรับคุณ หรือโดนใจแบบจดจำความเว่อร์ของคุณ
หรืออาจจะหนักขนาดได้ยินแล้วต้องวิ่งไป...แหวะใส่โถส้วมล่ะก็อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ...


มุกแรก...

“รักสะกดยังไงนะเธอ” หนุ่มถาม

“L-O-V-E” สาวตอบ

“ขอบคุณนะที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารัก” เป็นไงละ

มุกสอง...

“ที่บ้านมีแก้วกี่ใบอ่า??” สาวถาม

“จำไม่ได้ ถามทำไม” หนุ่มงง

“จะได้เทใจให้หมดเลย”

มุกสาม...

“ที่บ้านมีน้ำมันไหม...”

สาวตอบว่า “มี ทำไมเหรอ”

หนุ่มตอบไปเลยว่า...“จะเอามาทอดสะพานรักของเรา”

มุกสี่...

“นี่เธอๆ ช่วยหันหน้ามาให้ฉันเห็นทั้ง 2 ข้างหน่อยซิ”

สาวถาม ทำไมล่ะ หนุ่มต้องรีบบอกว่า.. “ก็ฉันไม่อยากหลงรักเธอข้างเดียวไง”

มุกห้า...

“เธอทำไมไม่ตัดผมล่ะ ...”

สาวถาม “ทำไมล่ะ”

หนุ่มอย่าลืมตอบ.. “ก็มันยาวจนมัดใจเราแล้ว”

มุกหก...

“นี่ๆ ช่วยอะไรหน่อยได้ไหม” สาวบอกหนุ่ม

หนุ่มคงต้องตอบว่า “ได้สิ”

สาวก็แย็บไปเลยว่า “ช่วยเดินไปตรงกระจกแล้วบอกคนนั้นว่าเราคิดถึง”

มุกเจ็ด...

“เธอๆ มีบาทหนึ่งปะ จะโทร.บอกแม่ว่าเจอคนที่ถูกใจแล้ว” โอ้! สุดยอด

มุกแปด...

หนุ่มถาม “ทำไงดี...เราตาบอดสีอ่ะ”

สาวทำท่าตกใจ. “โห..จริงอ่ะ แน่ใจเหรอ?”

ชายหนุ่มรีบตอบว่า.. “อืมม..แน่ใจดิ..ก็เราเห็นโลกทั้งใบเป็นสีชมพูอ่ะ”

มุกเก้า...

“เธอเห็นอะไรตรงนั้นไหม” (ชี้มือไปข้างหน้า)

สาวถาม.. “เห็นอะไรเหรอ”

หนุ่มตอบแบบอายๆ.. “ก็เห็นอนาคตของเราสองคนไง”

มุกสิบ...

“ขอโทษครับ เห็นกุญแจแถวนี้ไหมครับ

สาวสวย.. “ไม่เห็นค่ะ กุญแจเป็นแบบไหนค่ะ”

หนุ่มตอบว่า.. “แบบที่มันไขหัวใจคุณได้อะครับ”

มุกท้ายสุด (แต่ไม่ใช่สุดท้าย เพราะความรักไม่รู้มีวันจบจริงไหมคะ . . .
ยังมีอีกหลายมุกเด็ดที่เราสามารถบอกกับคนรักได้อีกมากมายเลยค่ะ)

“ฟาร์มอะไรใหญ่ที่สุด” สาวทำหน้างง..งง!!!

ชายรีบสวนว่า.. “ก็ฟามรักของเราสองคนไง”

22 ประโยคสุดโดนใจ...


1. เราเป็น "คนหลายใจ" เพราะ ให้เธอได้ทั้ง จริงใจ, เข้าใจ, ใส่ใจ แต่ว่า... เราดันลืมไปอย่าง เราลืม "เผื่อใจ "



2. อย่าตีหน้า "เศร้า" แล้วเดินมาบอกว่า "เจ็บ" เพราะฉันเป็นพวกตีหน้า "เซ็ง" แต่ "เจ็บ" กว่าเธอหลายเท่า



3. เวลาเล่น MSN คุยกับเธอฉันมีสถานะออนไลน์ แต่ถ้าเวลาใดที่ฉันอยู่กับเธอฉันมีสถานะเป็นอะไร??



4. "คนที่ไม่ใช่" ทำมา 100 แต่ได้คะแนนแค่ 1 "คนที่ใช่" ทำมาแค่ 1 แต่อาจได้คะแนนเป็น 100



5. บางคนรักเขา "ไม่กล้าบอก" แต่บางคนกลับหลอก แม้กระทั่งคนที่ "บอกรัก"



6. รู้มั้ยทำไมถึงบอกว่า "เมาเหล้า" ดีกว่า "เมารัก" เพราะ "อาการแฮงค์" ฟื้นตัวเร็วกว่า "อาการเฮิร์ท"



7. เลย เป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย แต่ละเลยเป็นจังหวะหนึ่งของคนหมดใจ



8. คนโสดก็เหมือนต้นไผ่ ข้างนอกดูแข็งแกร่งเพียงใด แต่ข้างในมัน "ว่างเปล่า"



9. "ฤดูหนาว" ถูกสร้างไว้เพื่อให้รู้ว่า...คนเราไม่ควรอยู่คนเดียว



10. ผู้ชายคนนี้ ไม่ได้มีไว้รัก เเต่มีไหล่ให้เธอพักยามเสียใจ



11. เวลาเธอเหงาไม่มีใคร ให้มอง Keyboard ไว้ ว่าจะมี I อยู่ข้าง U เสมอ



12. ความรักให้ได้แค่ครั้งละคน แต่ความเชื่อใจให้ได้แค่คนละครั้ง



13. "ผู้ชาย" ไม่ได้ต้องการ "นางฟ้า" แต่!! ต้องการ "คนที่มีเวลา" ให้กัน... "ผู้หญิง" ไม่ได้ต้องการ "เทพบุตร" แต่!! ต้องการ "คนที่หยุดสักที"



14. เช้ากินข้าวไม่ลงเพราะคิดถึง เที่ยงกินอะไรไม่ได้เพราะคิดถึง เย็นก็ไม่อยากกินเพราะคิดถึง พอดึกๆ ก็นอนไม่หลับเพราะว่า หิว!!



15. ถึงผมจะไม่หล่อเหมือนคนอื่นๆ แต่ผมก็จะไม่มีคนอื่นๆ เหมือนคนหล่อ



16. คนล้านคนมีล้านใจ ยากแท้หาหนึ่งใจเข้าใจคนหนึ่งคน



17. เบื่อจริง!! กับ "คำว่ารัก" เบื่อนักกับ "คำว่าผิดหวัง" เบื่อใจตัวเองที่ "โง่อยู่ลำพัง" เบื่อใจเธอนั้นที่มา "หลอกลวง"



18. อกหักก็เหมือนสะอึก ทรมาน หายยาก น่ารำคาญ แต่ไม่เคยเห็นใครตายเพราะมัน



19. ความเหงาเริ่มคืบคลาน ไร้ความหวานที่โหยหา หากรักไม่ต้องการเวลา แล้วใยฉันถึงเดียวดาย

20. เพราะใจมันจำ เลยทำให้ใจเจ็บ ไม่อยากคิดจะเก็บ แต่มันก็เจ็บเพราะยังจำ



21. "ความรัก" ไม่ใช่ ความผิด แต่ที่ผิด คือ "เลือกรักผิดคน"



22. สี่ห้องหัวใจยังว่าง ส่วนปอดสองข้าง "มะเร็งจอง"

เวลา นาฬิกา...แตกต่าง แต่เติมเต็ม







แปลกไหม…
ใครๆ ก็คิดว่าเวลากับนาฬิกาเป็นสิ่งที่คู่กันเสมอ
จริงๆ แล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นซักหน่อย


เวลา . . . เดินไปข้างหน้า
นาฬิกา . . . เดินอยู่ที่เก่า
เวลา . . . เราไม่อาจย้อนกลับ
นาฬิกา . . . เราหมุนย้อนมันได้
เวลา . . . เมื่อสูญเสียไปแล้วไม่อาจเรียกร้องคืน
นาฬิกา . . . เสียก็ซ่อม หรือซื้อใหม่ไปเลย
เวลา . . . ได้มาฟรีๆ ไม่ต้องแลกกะอะไร
นาฬิกา . . . ยิ่งสวยยิ่งแพง ใช้เงินซื้อมันมาทั้งนั้น แล้วอย่างนี้ มันจะคู่กันได้ยังไง
ในเมื่อมันแตกต่างกันเหลือเกิน
แต่ถามหน่อย . . . ถ้าไม่มีนาฬิกา จะรู้เวลาไหม
หรือถ้ามีแต่นาฬิกา แต่ไม่รู้จักเวลา จะมีประโยชน์อะไร
ถึง 2 สิ่งจะแตกต่างกัน แต่ถ้ามันจะคู่กันแล้ว
ย่อมมีจุดร่วมกันเสมอ เพียงแต่จะมองเห็นมันหรือเปล่า?
ฉันกับเค้า . . . อาจไม่มีอะไรเหมือนกัน
ฉันกับเค้า . . . มีความคิด และวิถีชีวิตที่ต่างกัน
ฉันกับเค้า . . . อาจเดินกันคนละเส้นทาง
ฉันกับเค้า . . . อาจมีความฝันที่ห่างไกลกัน
ฉัน . . . อาจเหมือนกับเวลา ที่ชอบเดินไปข้างหน้า
หาสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทาย โดยทิ้งหลายสิ่งไว้ข้างหลัง
เค้า . . . อาจเหมือนกับนาฬิกา ที่ยังเป็นแบบเดิมๆ
ใช้ชีวิตและทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ ในมุมเก่าๆ ฉันอาจไม่พบกับเค้าเลย ถ้าฉันยังดึงดันจะมองแต่ข้างหน้า
ฉันอาจไม่พบกับเค้าเลย ถ้าฉันไม่มองไปข้างหลัง

เค้ายังไม่เห็นฉัน เพราะเขายังอยู่แบบเดิมๆ
เค้ายังไม่เห็นฉัน . . .
เพราะเขายังก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของเขาไป แต่ฉันยังเฝ้ามอง เฝ้ารอ . . .
ความแตกต่าง อาจสร้างกำแพงบังเค้าไว้
แต่ฉันยังเชื่อมั่น ว่าซักวัน สิ่งนั้นน่ะแหละ
ที่จะเชื่อมโยงใจเราเข้าหากัน ความแตกต่าง จะเติมเต็มส่วนที่เราขาดหาย
และสุดท้าย ก็จะเหลือเพียงแค่คำว่า..
". . . กันและกัน . .

10 ต.ค. 2554

ฉันมีความสุข...

 


ยังมีเสียงเพลงที่ทำให้ใจสดใส ดวงดาวมากมายที่ให้เราดูเต็มฟ้า ฉันมีความสุข
มีลมพัดเย็นมาเป็นเพื่อนคลายเหงา มีวันของเราเพียงเราที่ผูกพันธ์ ฉันมีความสุข

มีฉันและเธอ ก็คงเพียงพอต่อใจ เธอมาอยู่ใกล้ฉัน แค่ใจเราอยู่ใกล้กัน

เมื่อไหร่ที่คิดที่ฝันถึงสิ่งใด ฝันนั้นมีเธออยู่ ได้บอกให้รู้ว่าฉันนั้นสุขใจ
เพราะเธอ(นั้น)มีความหมาย (มีค่าให้ใจฉันรักเธอ)

ยังมีถ้อยคำให้จำและยังซึ้งใจ ลืมความทุกข์ดวงใจอุ่นในความรัก ฉันมีความสุข

ไม่เคยต้องการ สิ่งใดมากไปกว่านี้ แค่เธอมาอยู่ใกล้ฉัน แค่ใจมาอยู่ใกล้กัน

เมื่อไหร่ที่คิดที่ฝันถึงสิ่งใด ฝันนั้นมีเธออยู่ ได้บอกให้รู้ว่าฉันนั้นสุขใจ
เพราะเธอ(นั้น)มีความหมาย (มีค่าให้ใจฉันรักเธอ)

เมื่อไหร่ที่คิดที่ฝันถึงสิ่งใด ฝันนั้นมีเธออยู่ ได้บอกให้รู้ว่าฉันนั้นสุขใจ
เพราะเธอ(นั้น)มีความหมาย (มีค่าให้ใจฉันรักเธอ)

เมื่อไหร่ที่คิดที่ฝันถึงสิ่งใด รู้ไหมมีเธออยู่ เธออยู่กับฉันๆก็สุขใจ เพราะเธอมีความหมาย มีค่าให้ใจฉันรักเธอ

ความสุขที่แท้จริง...




มีบางท่านเคยอ่านนิทานเรื่องหนึ่งนานมาแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า อาจารย์ท่านหนึ่งลากเส้นตรงขึ้นมาเส้นหนึ่ง แล้วบอกให้นักเรียนลองทำให้เส้นตรงเส้นนี้สั้นลงโดยไม่ต้องลบ นักเรียนต่างหาวิธีทำให้เส้นตรงนั้นสั้นลงไม่ได้เพราะทุกคนติดอยู่กับภาพลักษณ์ของการลบเส้นเดิมทิ้งไปเพื่อให้เส้นเดิมสั้นลงไป อาจารย์ท่านนั้นจึงขอให้นักเรียนรายหนึ่งเขียนเส้นตรงเส้นใหม่ที่ยาวกว่าเส้นเดิม ภายหลังจากที่นักเรียนลากเส้นตรงเส้นใหม่ที่ยาวกว่าเดิมแล้ว อาจารย์ท่านนั้นอธิบายให้นักเรียนฟังว่า

"การที่มีคนลากเส้นตรงขึ้นมาเส้นหนึ่ง ไม่ว่าเส้นตรงที่ลากมาจะยาวแค่ไหน เราสามารถทำให้เส้นตรงนั้นสั้นลงไปได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปลบเส้นของคนอื่นให้สั้นลง แต่เราสามารถทำให้เส้นของคนอื่นสั้นลงโดยที่เราลากเส้นของเราให้ยาวขึ้น ยิ่งเราลากเส้นยาวออกไปมากเท่าไหร่เส้นเดิมที่ลากไว้ก็จะสั้นลงไปทุกที เปรียบเหมือนการที่ใครซักคนทำในสิ่งหนึ่งที่ดีอยู่ประสบความสำเร็จอยู่ เราไม่ควรให้ความอิจฉาริษามาก่อให้จิตของเรารุ่มร้อนและหาทางกลั่นแกล้งคนๆนั้นด้วยการหาทางทำลาย เหมือนกับการพยายามลบเส้นของคนอื่นให้สั้นลง ตรงกันข้ามควรจะยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น เหมือนกับที่เรามองความยาวของเส้นตรงที่คนอื่นลากไว้ แต่เราหาทางพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆเหมือนกับการพยายามลากเส้นตรงเส้นใหม่ให้ยาวขึ้นเรื่อยๆโดยไม่ไปลบเส้นของคนอื่น เส้นตรงที่เราลากก็จะยาวขึ้นเรื่อยๆ โดยเส้นเดิมที่เราลากไว้ก็จะสั้นลงไปเรื่อยๆโดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปลบออกให้สั้นลง"

การคิดในเชิงสร้างสรรค์แบบนี้ทำให้จิตใจของเราโปร่งสบาย ไม่รุ่มร้อน เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ได้แข่งกับใครแต่เราแข่งกับตัวของเราเองอยู่ตลอดเวลาและเราไม่ได้ไปสร้างศัตรูหรือไปก่อเวรกับคนอื่น ตรงกันข้ามการแข่งขันระหว่างกันเป็นไปในทางเกื้อกูลกันทำให้ระบบโดยรวมมีการเติบโตอยู่ตลอดเวลาไปในทางที่เป็นบวก คงไม่สำคัญว่าคุณต้องชนะคนทั้งหมด สิ่งสำคัญคงอยู่ที่คุณพยายามชนะตัวของคุณเองอยู่ตลอดเวลาต่างหาก เพียงแต่เมื่อใดคุณสามารถชนะตัวของคุณเองได้ ชัยชนะที่ได้ก็จะมีความหมายและทำให้คุณเกิดความภูมิใจ และถ้าคุณยังไม่หยุดพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง คุณก็จะชนะตัวคุณไปเรื่อยๆ เมื่อคุณมองย้อนกลับมาเมื่อไหร่คุณก็จะมีแต่ความภูมิใจในชัยชนะที่ขาวสะอาด ชัยชนะที่เป็นแรงขับดันให้คุณพยายามพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

การประสพความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคนมีอยู่หลายวิธี บางครั้งผู้คนต่างพยายามเลียนแบบเส้นทางประสพความสำเร็จของผู้อื่น แต่เมื่อเดินตามเส้นทางนั้นกลับพบว่าไม่ประสพความสำเร็จนัก ความสำเร็จในชีวิตของผู้คนคงไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบอย่างเดียวกันเสมอไป และเส้นทางไปสู่ความสำเร็จก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเส้นทางเดียวกันเสมอไป สิ่งสำคัญน่าจะอยู่ที่ความสุขใจที่ได้เลือกเส้นทางที่เหมาะกับตนเองมากที่สุดมากกว่า

จงอย่าพยายามเลียนแบบเส้นทางไปสู่ความสุขของผู้อื่น เพราะนิยามความสุขของผู้คนต่างกัน ความสุขที่เราเห็นผู้คนอื่นมีความสุขกันอยู่ ถ้าเราไปอยู่ในสถานะนั้นเราอาจจะไม่มีความสุขอย่างที่เราเข้าใจก็ได้ สุขและทุกข์แท้จริงอยู่ที่ใจของเรากำหนดต่างหาก ลองมองทุกอย่าง อย่างเป็นกลางๆ ไม่เอาความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง อคติ มาครอบงำ แล้ววันหนึ่งเราอาจจะค้นพบความหมายของคำว่าความสุขที่แท้จริงของตัวเราเอง

ทำอย่างไรจึงจะอยู่อย่างมีความสุข...

embed allowscriptaccess="never" src="http://i946.photobucket.com/albums/ad307/dream5168/dream5168/dream2011-6-13-04.swf" width="450" height="400" type="application/x-shockwave-flash" Wmode="transparent">
ความเอ๋ย ความสุข

ใครๆทุกคน ชอบเจ้า เฝ้าวิ่งหา

“แกก็สุข ฉันก็สุข ทุกเวลา”

แต่ดูหน้า ตาแห้ง ยังแคลงใจ



ถ้าเราเผา ตัวตัณหา ก็น่าจะสุข

ถ้ามันเผา เราก็ “สุก” หรือเกรียมได้

เขาว่าสุข สุขเน้อ อย่าเห่อไป

มันสุขเย็น หรือสุกไหม้ ให้แน่เอ่ยฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ



ความสุข เป็นยอดปรารถนาของมนุษย์ที่สามารถแสวงหาได้ ซึ่งแนวทางในการทำตัวให้มีความสุข มีดังต่อไปนี้

1. การรักษาสุขภาพทางกายให้แข็งแรง

สุขภาพทางกายและสุขภาพทางจิตมีอิทธิพลต่อกันและกัน คนที่มีสุขภาพกายดีย่อมส่งผลให้มีจิตใจร่าเริงเข้มแข็ง การทำให้สุขภาพแข็งแรง ได้แก่การรับประทานอาหารถูกส่วน การพักผ่อนเพียงพอ การรักษาความสะอาดของร่างกาย ตลอดจนการออกกำลังกายอย่างพอเพียง

2. มีความสุขกับการทำงาน

การเลือกทำงานที่ชอบหรือการสร้างความพึงพอใจในงานที่ทำ หาวิธีการทำงานให้มีความสุข พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายหลายอย่างภายในขอบเขตที่สังคมยอมรับ ตามความสามารถของตนเอง และมองเห็นหนทางไปสู่ความสำเร็จได้ แล้วลงมือปฏิบัติอย่างตั้งใจก็ย่อมจะเกิดความสุข เกิดความปิติจากความสำเร็จในงานตามมา

3. รู้จักตัวเองอย่างแท้จริง

ควรได้สำรวจตัวเองว่าเป็นคนอย่างไร ต้องยอมรับว่าคนเรามีทั้ง ส่วนดีและส่วนเสีย เราต้องมองหาส่วนดี เห็นคุณค่า ชื่นชม พยายามพัฒนาส่วนดี พร้อมทั้งยอมรับในข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แล้วหาแนวทางปรับปรุงแก้ไข คนที่มีความสุขนั้นไม่ได้หมายความว่าจะไม่เคยพบอุปสรรค ข้อขัดแย้งในใจ หรือไม่เคยพบปัญหา แต่อาจจะเป็นคนที่บางครั้งแก้ปัญหาไม่ได้ จึงต้องใช้ความพยายาม ความอดทน ก็จะสามารถเผชิญปัญหาไปได้

4. มีอารมณ์ขัน มองโลกในแง่ดี

ควรมองหาความสุข ความเพลิดเพลิน เพื่อช่วยลดความตึงเครียดต่างๆ ทำให้อารมณ์ผ่อนคลาย การหัวเราะทำให้จิตใจเบิกบาน มีการกระเพื่อมของหน้าท้อง หัวใจปอดได้ออกกำลัง มีผลถึงกล้ามเนื้อหัวไหล่ แขน หลัง กระบังลม และขา เกิดความพึงพอใจในความสุข นอกจากนี้ไม่ควร มองโลกในแง่ร้าย เวลาจะทำอะไรต้องหาจุดดีของเรื่องนั้นให้พบ เมื่อพบแล้วทำความพอใจและชื่นชม ก็จะเกิดแต่ความดีงาม

5. ไม่ควรเก็บอารมณ์ขุ่นมัว

การเก็บกดอารมณ์ทำให้เกิดความ ขุ่นมัว สับสน วุ่นวายใจ เป็นการก่อให้เกิดความตึงเครียด ทางอารมณ์ ผลทำให้สีหน้าหม่นหมอง น่าเกลียด ขากรรไกรประกบกันแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย เหี่ยวย่น ผมสีเทา-ขาว ผมร่วง โรคผื่นคัน พุพอง และสิวตามมา เราควรต้องหาทางระบายอารมณ์ที่ขุ่นมัว โดยการแสดงออกในทางที่สังคมยอมรับและได้ตอบสนองตามความต้องการของเรา แต่ถ้าพบความยุ่งยากใจเพิ่มขึ้น ก็ควรหาวิธีหลีกเลี่ยงเสียก่อน เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์จะเผชิญความตึงเครียดทางอารมณ์ได้ถึง ขีดหนึ่งเท่านั้น จากนั้นต้องหาทางผ่อนคลาย ดังคำกลอนที่ว่า

เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง

วุ่นก็ให้ว่าง ทุกอย่างก็สบาย

6. ควรมีงานอดิเรกและการพักผ่อนหย่อนใจ

ควรหาอะไรที่ชอบและพอใจทำ ทำในเวลาว่างที่เหลือจากกิจวัตรประจำวัน การทำอะไรในสิ่งที่พึงพอใจย่อมเกิดความสุขเพลิดเพลิน ทำให้ไม่มีเวลาว่าง ที่จะคิดกังวลเรื่องต่างๆ เป็นการฝึกการใช้เวลาว่างนั้นๆให้มีสมาธิในการทำสิ่งที่พอใจ ซึ่งจิตมีสมาธิจะเป็นจิตที่เข้มแข็ง ไม่หวั่นไหวง่าย พบว่า งานอดิเรกที่เกี่ยวกับกีฬาจะช่วยให้มีความสุข สนุกสนาน ร่าเริง แจ่มใส นอกจากนั้นการได้ท่องเที่ยวไปกับธรรมชาติที่กว้างใหญ่ เช่น ท้องฟ้า ทะเล ป่าเขาลำเนาไพร จะก่อให้เกิดความปลอดโปร่ง สดชื่น มีความสุข และถ้าต้องการทำจิตให้เป็นสมาธิในทางศาสนาจะก่อให้เกิดความสงบสุขทางใจเป็นอย่างมาก

7. หาสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ

แต่ละชีวิตย่อมมีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไป เราจึงควรหาเพื่อนหรือใครสักคนที่สามารถร่วมทุกข์ร่วมสุขได้ ค้นหาคนที่คุณรักและเขารักคุณ ช่วยเหลือเกื้อกูล ปลอบขวัญ บำรุงจิตใจซึ่งกันและกัน สามารถที่จะระบายทุกข์ ปรึกษาขอความคิดเห็น การแก้ไขปัญหาต่างๆ หรือในที่สุดอาจจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแนะแนวและการบำบัดทางจิตโดยเฉพาะ ทั้งนี้ขึ้นกับปัญหาความซับซ้อน ซึ่งนับเป็นวิธีการแก้ปัญหาการปรับตัวตั้งแต่ต้นที่ชาญฉลาด

8. พร้อมที่จะเผชิญปัญหาและความกังวลใจ

เมื่อพบอุปสรรค พึงพิจารณาปัญหาอย่างใช้เหตุและผล โดยค้นหาข้อเท็จจริง มองปัญหานั้นๆและหาวิธีการต่างๆในการแก้ปัญหา ทำการตัดสินใจ แล้วปฏิบัติตามที่ได้ตัดสินใจไว้ หรือถ้าปัญหารุมเร้ามากจนต้องการหลีกให้พ้น “จงใช้ชีวิต อยู่เพื่อวันนี้เท่านั้น” ดังคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุว่า

สิ่งล่วงแล้ว แล้วไป อย่าใฝ่หา

ที่ไม่มา ก็อย่าพึง คนึงหวัง

อันวันวาน ผ่านพ้น ไม่วนวัง

วันข้างหน้า หรือก็ยัง ไม่มาเลย

หรือถ้าปัญหาต้อนท่านไปจนมุม ให้มองพิจารณาดูผลร้ายที่เกิดขึ้นแล้วทำใจให้ยินดีเผชิญกับสิ่งนั้นๆ เมื่อเวลาผ่านไปให้พิจารณาว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้ทำลายความสุขแห่งชีวิตมามาก เพียงพอแล้ว แล้วหันกลับใช้เหตุผลในการพิจารณาแก้ไขสิ่งร้ายๆให้กลายเป็นดีด้วยใจสุขุมเยือกเย็น ท่านก็จะผ่านพ้นอุปสรรคไปได้

9. ใช้เวลาเป็นยารักษาความเจ็บปวด

เมื่อพบกับความผิดหวังจงใช้เวลาเป็นเครื่องช่วยเยียวยา เมื่อพลาดหวังแล้วจงอดทน และมีความหวังต่อไป ความหวังเป็นพลังหรือแรงจูงใจ เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิต เมื่อประสบความผิดหวัง ไม่ควรใช้วิธีถอยหนีหรือเลี่ยงปัญหา ควรคิดเสมอว่า “ท้อแท้-หงอย ท้อถอย-แพ้” เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ ไม่ควรแก้ปัญหาโดยใช้สิ่งเสพย์ติด เช่นสุรา หรือยาบางชนิด เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ลืมความทุกข์ ได้เพียงชั่วขณะ ไม่ทำให้เราพิจารณาใช้ความคิดในการแก้ปัญหา เป็นการหลีกหนีปัญหาที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง

10. ค้นหาเป้าหมายของชีวิต

การคิดฝันไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องมีความคิดฝันที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง ซึ่งความคิดฝันจะทำให้เรามีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ มีแรงจูงใจ มีการตั้งเป้าหมายในชีวิตใกล้เคียง กับความสามารถที่แท้จริงและสอดคล้อง กับความเชื่อและอุดมคติ แล้วทำการลงมือปฏิบัติเพื่อไปสู่ เป้าหมาย ถ้าทำเช่นนี้ได้เราก็จะประสบความสำเร็จและความสมหวัง เกิดความสุขทางใจได้

จากสิ่งที่กล่าวมาแล้วนั้นเป็นการเสนอแนวทางในการปฏิบัติอย่างกว้างๆการทำตัวให้มีความสุขได้เพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ ต้องอาศัยการเรียนรู้ และหาวิธีการ แล้วนำไปดัดแปลง ปรับปรุงให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพการของผู้ต้องการแสวงหาความสุขนั่นเอง



ในท้ายที่สุดขอฝาก

อันทุกข์สุขอยู่ที่ใจ มิใช่หรือ ใจเราถือเป็นทุกข์ไม่สุกใส

ใจไม่ถือเป็นสุขไม่ทุกข์ใจ เราอยากได้ความทุกข์หรือสุขนา



“ขอให้ท่านผู้อ่านจงประสบแต่ความสุข.......”

4 ต.ค. 2554

18 วิธีเสริมสร้างกำลังใจ.....




คนเราทุกคน ล้วนมีโอกาสที่จะประสบกับช่วงเวลา ที่เกิดอารมณ์เศร้าหมอง หดหู่ และยิ่งเรารู้สึกไม่ดี หรือเก็บความรู้สึกเหล่านี้เอาไว้กับตัวเรามากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งส่งผลเสียกับตัวเองมากเท่านั้น... ในความเป็นจริงแล้ว มีวิธีที่จะสามารถแก้ไขในเรื่องนี้ได้ ลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ จะสามารถช่วยเสริมสร้างกำลังใจ'>เสริมสร้างกำลังใจให้กับตัวคุณ ช่วยให้คุณคิดอะไรในทางบวก และเพิ่มความสุขในชีวิตให้มากขึ้น



อันดับที่ 8. ฝึกการหายใจ
การหายใจของคนเราเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นลึกลงไปใน ‘จิตใต้สำนึก’ เสียด้วยซ้ำ... ศาสตร์ทั้งในตะวันออก และตะวันตก ได้พิสูจน์ออกมาแล้วว่า ถ้าเราสามารถรับรู้ถึงจังหวะการหายใจ และหายใจด้วยวิธีที่ถูกต้อง ก็จะมีส่วนช่วยในการลดความตึงเครียดลงได้มาก
เพียงแค่ฝึกการหายใจเข้า – ออก อย่างช้าๆ จะช่วยให้คุณมีใจจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน และช่วยเพิ่มสมาธิในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี



อันดับที่ 7. สร้างเสียงหัวเราะ
การหัวเราะ คือยาขนานเอก (ที่ไม่ต้องเสียตังค์ศื้อซะด้วย).. เพิ่มเสียงหัวเราะและความอารมณ์ดี ได้ด้วยการดูหนังตลกๆ หรือพกหนังสือตลกๆ ติดไม้ติดมือเอาไว้อ่านยามว่าง ยิ่งไปกว่านั้น การได้หัวเราะออกมาแบบสุดๆ (ขนาดพุงกระเพื่อม) จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค และช่วยให้คุณมองเห็นมุมมอง ในการแก้ไขปัญหา ได้ดีขึ้นกว่าเดิม
หัวเราะวันละนิด จิตแจ่มใส... วันนี้คุณหัวเราะแล้วหรือยัง?



อันดับที่ 6. เข้าหาธรรมชาติ
ไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ นั่งเล่นสบายๆที่น้ำพุ สูดอากาศบริสุทธ์ ปลูกต้นไม้สวยๆ ที่ระเบียงบ้าน ออกไปเที่ยวพักผ่อนตามต่างจังหวัดเพื่อชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงาม ทั้งน้ำตก ขุนเขา และท้องทะเล พลังที่มีอยู่ในธรรมชาติ จะช่วยเพิ่มพลังชีวิตให้กับคุณ



อันดับที่ 5. ออกกำลังกาย
เริ่มต้นได้อย่างง่ายๆ ด้วยการทำอะไรอย่างกระฉับกระเฉง เพื่อให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า หรือถ้าทำงานจนไม่มีเวลา ก็ลองการออกกำลังกายแบบใหม่ๆ อย่างเช่น วันไหน ที่รถติดมาก ก็ลองลงรถเมล์ก่อนถึงบ้านสัก 2 ป้าย แล้วเดินกลับบ้าน นี่เป็นการออกกำลังกายอย่างง่ายๆ โดยไม่เสียเวลา
หรือยามมีเวลาว่างในวันหยุดพักผ่อน ก็อาจจะออกไปวิ่งจ๊อกกิ้ง หรือปั่นจักรยานตามสวนสาธารณะ.... ร่างกายที่แข็งแรง จะส่งผลให้กลไกต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดี และมีสภาพจิตใตที่ดีขึ้นตามมา



อันดับที่ 4. นึกถึงเรื่องราวดีๆ
รำลึกถึงช่วงเวลาๆ ดี ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เช่น ช่วงเวลาสนุกๆ ระหว่างเพื่อนสนิท ช่วงเวลาแห่งความสุข ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนแฟน หรือ ช่วงเวลาของความอบอุ่นภายในครอบครัว หยิบรูปเก่าๆ ขึ้นมาดูบ้าง เมื่อมีโอกาส เปิดดูการ์ดเก่าๆ ที่เคยมีคนเขียนข้อความดีๆ เอาไว้ให้ แล้วยิ้มกับมันอีกครั้ง รับรู้ถึงความรู้สึกดีๆ ว่ายังมีคนที่ห่วงใยคุณอยู่



อันดับที่ 3. เห็นคุณค่าในตัวเอง
แยกรายการสิ่งที่คุณคิดว่ายอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของคุณ ออกมาสัก 3 -5 หัวข้อ พิจารณาดูแต่ละเรื่อง ว่าสิ่งไหนที่ทำแล้ว จะส่งผลดีๆ ให้กับชีวิต ได้ทำสิ่งที่ชอบและเกิดผลดีไปพร้อมๆ กัน จะช่วยสร้างกำลังใจ และแรงผลักดันให้ทำสิ่งต่างๆ อย่างมีความสุข



อันดับที่ 2. เพิ่มความใส่ใจลงไปในสิ่งที่ชอบ
ไม่ว่าจะชอบอะไร... ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ท่องเที่ยว แต่งรถ ชอปปิ๊ง ตกแต่งบ้าน ฯลฯ... การให้ความใส่ใจเพิ่มเติม ถึงสิ่งที่เราชอบอย่างจริงๆ จังๆ จะสามารถช่วยลดความรู้สึกเบื่อ และเสริมสร้างกำลังใจ'>เสริมสร้างกำลังใจให้กับชีวิต ได้อย่างตรงประเด็น



อันดับที่ 1. รู้จักกล่าวคำขอโทษ
ความรู้สึกละอายใจ และเสียใจ จาการที่เรากระทำความผิด สามารถสร้างความกังวลใจให้เกิดขึ้นได้มาก
ดังนั้น การรู้จักกล่าวคำขอโทษด้วยความจริงใจ หลังจากที่คุณทำผิดกับผู้อื่น จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนการปลดปล่อยภาระในตัวออกไป



ในระบบของดาวเคราะห์ที่เรียกว่า ‘โลก’ ซึ่งเราอาศัยอยู่ มีสิ่งที่เรียกว่า “การกระทำความความผิด” แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีสิ่งที่เรียกว่า “การขอโทษ” เป็นของคู่กันอยู่ด้วย และข้อหลัง ก็คือพื้นฐานที่ดี สำหรับการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข บนโลกใบนี้





ขอบคุณ : naddate.com

18 คำตอบ เวลาที่คุณรู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง....



เวลาที่เราอ่อนเพลีย เรามักโทษความเครียดและการนอนน้อย แต่ยังมีสิ่งผิดปกติอื่นอีกที่สามารถสูบพลังจนหมดตัวคุณได้ โชคดีที่เรามีวิธีเรียกพลังใจและกายกลับคืนมา

1.ใช้โทรศัพท์มากเกินไป คุณจะเสียน้ำในร่างกายไปทางปากขณะพูด ซึ่งเป็นอาการที่เรียกว่า “phone-fatigue” ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพนักงานตามศูนย์บริการลูกค้า อาการขาดน้ำทำให้เลือดแข็งตัวและลดปริมาณออกซิเจนในระบบที่เป็นตัวให้พลังงาน ดังนั้น ถ้าคุณใช้โทรศัพท์นาน ควรดื่มน้ำมากๆ ระหว่างคุย

2.ความดันเลือดต่ำ
ความดันเลือดต่ำคือสาเหตุใหญ่ที่คุณหมดแรง แพทย์ยังไม่รู้ว่าทำไม แต่เป็นไปได้ว่ามันทำให้เลือดส่งไปยังสมองไม่เต็มที่ ซึ่งอาจทำให้อ่อนเพลีย อาการที่พบได้บ่อยที่สุดในคนที่มีความดันเลือดต่ำคือ รู้สึกหน้ามืดเวลาลุกขึ้นปุปปับ หรือเวลายืนนานๆ ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์

3.เล่นเน็ตถึกเกินไป
ฮอร์โมนเมลาโทนินจะกระตุ้นให้เรานอนหลับ แต่แสงจากจอคอมพิวเตอร์ อาจทำให้เราหลับยาก โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังดูสิ่งที่สนใจอยู่ ซึ่งทำให้คุณมักนอนดึก และมีเวลานอนหลับน้อยลง ให้คุณทำอย่างอื่นที่ผ่อนคลายกว่า เช่น อ่านหนังสือแล้วดูสิว่าคุณจะตื่นตัวมากกว่าเดิมในวันใหม่หรือเปล่า

4.กินอาหารไม่เต็มที่
การเฝ้ารออาหารจะเพิ่มปริมาณน้ำย่อย และทำให้เราดูดซับสารอาหารได้มากขึ้น ที่มันเกี่ยวกับอาการอ่อนเพลียก็เพราะการขาดธาตุเหล็กคือหนึ่งในสาเหตุของความอ่อนเพลียที่พบมากในผู้หญิง ดังนั้นไม่ว่าอะไรที่เพิ่มระดับสารอาหารให้คุณ ก็จะเพิ่มพลังใจและกายให้ด้วย

5.ไม่ออกกำลัง
นักวิจัยพบว่าคนที่ออกกำลังอย่างน้อย 20 นาที แม้จะแค่อาทิตย์ละครั้งก็จะรู้สึกอ่อนเพลียน้อยกว่าคนที่ไม่ออกกำลังเลยประมาณ 30% ถ้าเห็นว่าออกกำลังเป็นเรื่องยากเกินไป ให้คุณกินผักและผลไม้เพิ่ม คนที่กินผักผลไม้อย่างน้อย 4-5 จานต่อวันจะออกกำลังได้อย่างสบายๆ

6.อิทธิพลของเดือนเกิด
ถ้าคุณเกิดเดือนธันวาคม หรือมกราคม จะอ่อนเพลียใหนช่วงเย็นมากกว่าคนที่เกิดเดือนมิถุนายน หรือกรกฎาคมที่จะขี้เซาในยามเช้า นักวิทยาศาสตร์บอกว่า การสัมผัสของแสงแดดยามเช้าประมาณ 15 นาที จะทำให้คนประเภทหลังตาสว่าง ส่วนกาแฟยามบ่ายจะเพิ่มพลังให้กับคนประเภทแรก

7.กรามแข็ง
คุณสามารถใส่นิ้ว 3 นิ้วเรียงเป็นแนวตั้งเข้าปากพร้อมกันหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ คุณคงมีปัญหาที่เรียกว่าโรค TMJ (temporomandi bular joint) แพทย์บอกว่ามันคือความไม่สมดุลระหว่างกล้ามเนื้อใกล้กราม และตำแหน่งของฟัน อาการทั่วไปคืออ่อนเพลียและปวดหัว ปวดคอ หรือไหล่ ควรปรึกษาทันตแพทย์

8.ธรณีหน้าต่างสกปรก
จากการวิจัยพบว่า 88% ของบ้านทั่วไปจะมีราขึ้นตามหน้าต่าง และการแพ้เชื้อราเหล่านี้เองคือ สาเหตุหนึ่งของความอ่อนเพลีย ใช้ผงซักฟอกทำความสะอาดและตรวจดูผ้าม่านอาบน้ำของคุณด้วยว่ามีราหรือเปล่า

9.ไม่ได้เอาผ้าห่มไปผึ่งแดด
ระดับความขึ้นสูงทำให้ไรฝุ่นเติบโตได้ดี มันอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบตามหลอดลมในปอด ทำให้หายใจติดขัดและนอนหลับไม่สนิท และเป็นสาเหตุของความอ่อนเพลียในวันต่อมา นำผ้าห่มผึ่งแดดเป็นประจำ เมื่อความชื้นหมดไป ก็ไม่มีไรฝุ่น

10.เชื่องช้า งุ่มงาม ร่างกายจะใช้พลังงานมากขึ้นเมื่อคุณงุ่มง่าม เพราะปริมาณกลูโคสเข้าสู่สมองน้อยลง คุณเลยอ่อนเพลีย การผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดทำได้โดยเหวี่ยงแขนไปหน้าและหลัง สลับทีละแขน

11.อยู่ใกล้คนมองโลกในแง่ร้าย
คนที่มองทุกอย่างในแง่ร้ายจะฉุดพลังคุณหดหายไปด้วย เพื่อลดอิทธิพลของพวกเขา ให้จินตนาการว่าคุณกำลังใส่เสื้อคลุมสีดำเวลาคุยกัน ก็จะยับยั้งไม่ให้คุณดูดพลังแง่ลบจากพวกเขาได้

12.อยู่ใกล้เครื่องใช้ ไฟฟ้ามากเกินไป
ขั้วบวกที่มาจากอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ หรือเครื่องปรับอากาศอาจกระตุ้นให้เกิดฮอร์โมนที่ทำให้เราอ่อนเพลียและซึมเศร้า ให้เสียบปลั๊กตัวแปลงขั้วไฟฟ้าเพื่อเพิ่มระดับของขั้วลบที่เสริมพลังในอากาศ

13.ลืมดื่มกาแฟตอนเช้า
ถ้าคุณไม่ได้ดื่มกาแฟยามเช้า พลังกายและใจอาจตกวูบในวันนี้ จากงานวิจัยพบว่า ผู้ร่วมวิจัย 50% มีอาการอ่อนเพลียถ้าไม่ได้ดื่มกาแฟถ้วยแรกของวัน ซึ่งมีถึง 13% ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

14.บ้านรก
ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยบอกว่ากองสิ่งของรกเกะกะจะทำให้สถานที่นั้นขาดพลังและกระตุ้นให้คุณขาดพลังไปด้วย คุณไม่ต้องถึงกับเก็บทุกอย่างในทันที แค่สะสางพื้นที่อาทิตย์ละครั้งก็ใช้ได้

แม้ว่าการเจ็บหน้าอกคือสัญญาณหลักๆ บอกถึงอาการโรคหัวใจ แต่สำหรับเพศหญิง สัญญาณนั้นอาจเป็นความอ่อนเพลีย ซึ่งมีมากถึง 70% ที่อ่อนเพลียภายในเดือนนั้น ก่อนหัวใจกำเริบ สัญญาณอื่นๆอาจรวมถึงการนอนไม่หลับ หายใจขาดห้วง อาหารไม่ย่อยและความเครียด 43% ของผู้หญิงไม่มีอาการเจ็บหน้าอกเลย แม้โรคหัวใจจะกำเริบก็ตาม พบผู้หญิงวัยก่อนหมดประจำเดือนเป็นโรคหัวใจน้อยมาก แต่ถ้าคุณรู้สึกไม่ดี ควรตรวจร่างกาย โดยเฉพาะถ้าคุณมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น สูบบุหรี่ ความดันเลือดสูง คลอเรสเตอรอลสูง เป็นเบาหวาน หรือคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ

16.กลั้นหาว
การหาวเป็นวิธีธรรมชาติที่ร่างกายของเรากระตุ้นให้เราตื่น นักจิตวิทยาบอกว่าการเคลื่อนไหวของกรามจะบีบหลอดเลือดบนใบหน้า ซึ่งส่งเลือดไปยังสมอง การกลั้นหาวจึงเป็นการยับยั้งกระบวนการนี้และทำให้คุณยิ่งง่วงนอนมากขี้น

17.ใช้ชีวิตตามตาราง
ตารางกิจกรรมที่เตือนคุณทุกอย่างว่าต้องทำอะไรบ้างคือตัวดูดพลังชั้นดี นักวิจัยพบว่าคนที่คิดว่าเขาทำอะไรไปได้มากแค่ไหนมักจะอ่อนเพลียง่ายกว่าคนที่ทำสิ่งที่ต้องทำไปเรื่อยๆ

18.หมอนเก่าเกินไป
ถ้าหมอนของคุณยวบยาบไม่แข็งพอ จะทำให้ลำคอของคุณไม่ได้ระนาบเดียวกับลำตัว ซึ่งไม่เพียงทำให้กล้ามเนื้อตึงตัวซึ่งทำให้คุณนอนไม่หลับแล้ว ยังไปกีดขวางระบบการหายใจเวลาคุณหลับด้วยถ้าหมอนของคุณอ่อนนิ่มจนโอบรอบแขนคุณได้ ก็ถึงเวลาซื้อใบใหม่แล้ว

ขอขอบคุณ ที่มา:นิตยสาร cleo

ห่างไกลเหลือเกิน......



เมื่อวันที่เราต้องห่างกันไกล
รู้ไหมว่าหัวใจยังห่วงหา
ไม่อยากให้เราไกลสายตา
อยู่ใกล้คงดีกว่าต้องห่างกัน

เธอบอกไว้ว่าเพราะเป็นหน้าที่
คนดี ตัวฉันนี้ ใจสั่น สั่น
รู้ไหมแต่ละครั้งที่ไกลกัน
ฉันเองนึกหวาดหวั่นทั้งกายใจ

อยากมีเธออยู่ข้าง-ข้าง
ยามอ้างว้างมีเธอปลอบขวัญให้
ยามทุกข์ท้อ เธอเป็นกำลังใจ
ยามร้องไห้เธอช่วยซับน้ำตา

ต่อแต่นี้ยามที่เราต้องไกล
หัวใจคงไม่สดใสเริงร่า
เพราะคนที่ทำให้ฉันหัวเราะ..
......อยู่ทุกครา.....
กำลังจะห่างฉัน ไปไกลตาอีกนาน

เธอบอกให้ฉันเข้มแข็งไว้
จะไม่เปลี่ยนไป แม้เวลาหมุนผ่าน
เคยรักอยู่เช่นไร ก็ยังรักเช่นวันวาน
แม้อีกนาน กว่าเราจะได้พบกัน

ฉันจะจำคำเธอเก็บเอาไว้
บอกตัวเองให้ใจไม่ไหวหวั่น
รอวันคนดี กลับมาเพื่อผูกพัน
ต่อเติม แต่งฝัน วันห่างไกล

แต่ละวันที่เรานั้นไกลห่าง
ความอ้างว้างคลืบคลานเข้ามาใกล้
ความเหงาแวะเวียนมาในหัวใจ
ให้ฉันได้คิดถึงเธออยู่ทุกวัน

ฉันเหงา เธอจะเหงาบ้างหรือไม่
ฉันทุกข์ใจ ไม่มีเธอปลอบขวัญ
ในวันนี้ ซึ่งเรายังห่างกัน
ฤดูกาล แสนเนิ่นนาน จะผ่านไป

ยามห่างไกล หัวใจยังคิดถึง
ความรัก ยังตรึงใจสองเราไว้
ความผูกพัน ยังรอคนของใจ
ความฝันยังสดใส เพื่อรอเธอ

เสร็จงานแล้วรีบกลับนะคนดี
ทุกวินาทีห่วงใย อยู่เสมอ
ทุกคืนวัน ฉันยังคงละเมอ
รอเพียงเธอคืนกลับ ยามห่างไกล

1 ต.ค. 2554

ใจสลาย...ในสายฝน

 




สายฝนหลั่งพรั่งพลูดูแล้วเศร้า

ได้นำเอาความสลดหดหู่เหลือ

สูญหมดสิ้นดินถล่มจมเป็นเบือ

ไม่มีเหลือเมื่ออับเฉาเศร้าอาดูร

ฝนไหลหลั่งพรั่งพลูดูวันนี้

ทุกชีวีนี้มืดดับล้วนอับสูญ

พืชไร่นาไม่มีค่ามาเจือจุน

สิ่งเกื้อหนุนพาให้รอดไม่ปลอดภัย

ฝนเทหลั่งพรั่งพลูดูไหลหลาก

ล้วนลงจากเนินผาศิลาไหล

โคลนถล่มดินทลายแล้วไหลไป

พัดพามวลพฤกษาไพรให้ทับเรือน

ชีวิตและทรัพย์สินสิ้นหมดแล้ว

โอ้ดวงแก้วใจจะขาดมีดบาดเฉือน

เหตุการณ์เกิดครั้งนี้ไม่มีเลือน

ติดตราเตือนตรึงใจไปอีกนาน

ชีวิตที่ล่วงลับกับน้ำหลาก

มาพรัดพรากด่วนจากไปให้สงสาร

พ่อแม่ญาติพี่น้องผองวงศ์วาน

แสนร้าวราญสุดรันทดอดสูใจ





กลอนดี ๆ :คุณเปรมยุดา อาคะราช

รักแท้...ไม่แพ้ใกล้ชิด




เรื่องดี ๆ และ ขอบคุณ Teenee.com

รักแท้...ไม่แพ้ใกล้ชิด

คนที่มีความรักแท้เท่านั้นที่จะเข้าใจว่า ความรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร... แต่รักแท้ ไม่ใช่หาได้ง่าย บางคนแสวงหาความรักแท้จนเข้าวัยชราจึงจะพบก็มี หลายคนเมื่อย่างเข้าวัย 30 แล้ว ยังคงอยู่เป็นโสดก็เริ่มสงสัยว่า ในชีวิตของเราจะพบกับความรักไหมหนอ จะได้อยู่ครองคู่กับคนรักไหม ทำไมจึงยังไม่มีใครมารักเรา บางครั้งเขารักกับใครไปจนทั่ว แต่หา เธอ คนนั้นไม่พบ เขาคิดเข้าข้างตัวเองว่า อกหักดีกว่ารักไม่เป็น และเขาก็อกหักอยู่เป็นประจำ เพราะเธอทอดทิ้งเขาไป หาหนุ่มคนใหม่ที่อาจจะมีเสน่ห์กว่า เอาใจมากกว่า และแน่นอน อาจจะร่ำรวยกว่า จนมีคำเขียนท้ายรถว่า รักแท้แพ้เงินตรา และ เงินจางนางจร แต่ไม่จริงหรอกครับ ที่ผู้หญิงจะคิดถึงเงินตรามากกว่าความรัก แม้ว่าในยุคนี้เป็นยุคแห่งวัตถุนิยม ทุกคนแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันเพื่อร่ำรวย เพื่ออำนาจวาสนา เพื่อชื่อเสียง ในท้ายที่สุดแล้วถ้าเธอจะเลือก เธอจะเลือก "ความรัก" ขอแต่คุณ

ทำให้เธอแน่ใจเท่านั้นละครับว่า คุณรักเธอจริง ผู้หญิงเกือบทุกคนมีสัญชาตญาณที่จะรับรู้ว่า เขา คนนั้น รักเธอจริงหรือไม่ และเมื่อเธอทราบว่า เขารักเธอ เธอจะเลือกที่ยืนเคียงข้างเขา เธอสามารถที่จะสละความสุขสบายส่วนตัวเพื่อเขาได้ รวมทั้งในยามที่คับขัน เธออาจที่จะเสียสละชีวิตของเธอเพื่อปกป้องเขาผู้เป็นที่รัก อ่านแล้วอาจจะเหมือนนิยายในฝัน จริงครับ ยากนักที่จะหาในยุคสมัยนี้ แต่ถ้าคุณอดทนรอคอยและแสวงหา...วันหนึ่งคุณจะพบ โลกเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่หลีกหนีธรรมชาติไปมากจนเกือบจะถึงที่สุดแล้ว ไม่ช้าไม่นาน ลูกตุ้มแห่งกาลเวลาก็จะย้อนกลับ และนำเอาความรักที่ดีงามตามธรรมชาติกลับคืนมา เธอก็หาเขาอยู่! เธอมีความรักก็หลายครั้ง เธอผิดหวัง เธอเสียใจ เธอแอบร้องไห้คนเดียว โดยไม่หวังจะให้ใครมาเห็นใจหรือปลอบใจ แต่เธอก็มีกำลังใจที่จะสู้โลกและชีวิตนี้ต่อไป... เพราะพรหมลิขิตบอกให้เธอรอที่จะพบเขา



พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด ก่อนนี้อยู่กันแสนไกล พรหมลิขิตดลจิตใจ ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ... เออชะรอยคงเป็นเนื้อคู่ เคยอุ้มชูเลี้ยงดูบำเรอ แต่ครั้งแรกเมื่อพบเธอ ใจฉันเชื่อเมื่อแรกเจอ ฉันและเธอคือคู่สร้างมา



เพลง "พรหมลิขิต" ขับร้องและทำนองโดยครูเอื้อ สุนทรสนาน ปราชญ์และบรมครูแห่งวงสุนทราภรณ์ เพลงนี้เป็นที่กินใจของหนุ่มสาวในยุคหนึ่งเป็นยิ่งนัก เพราะคิดกันว่า การที่คนสองคนจะต้องมามีสัมพันธภาพกันนั้น เป็นลิขิตของฟ้า เคยเชื่อเรื่องพรหมลิขิต และบุพเพสันนิวาสบ้างไหม... ในบทเพลง บุพเพสันนิวาส นั้น ครูเอื้อขับร้องได้ไพเราะเพราะพริ้งว่า



รักไม่มีพรมแดน รักไม่มีศาสนา แม้นใครบุญญาได้ครองกันมา พรหมลิขิตพาชื่นใจ



รักเหมือนโคถึกที่คึกพิโรธ ความรักเช่นนั้นให้โทษ อย่าไปโกรธโทษรักไม่ได้



ความรักของหนุ่มสาวในทุกยุคทุกสมัย มักจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันด่วน เรียกว่า เจอหน้าก็ปิ๊งเลย และบางครั้งก็กลายเป็นรักชั่วข้ามคืน ที่เมื่อเสร็จสมอารมณ์รักแล้ว ในเช้าวันรุ่งขึ้น ก็เหมือนคนแปลกหน้าสองคนที่มาพบกัน แล้วแยกจากกันไป คุณเชื่อในความรักไหม คุณเชื่อไหม...ว่าอำนาจของความรักมีจริง อานุภาพแห่งความรักแท้นั้น เหลือที่จะกล่าวอ้างถึงได้ เพราะในความรักแท้นั้น คุณอยากให้เขาได้ดีมีสุข อยากให้เธอเจริญก้าวหน้ามีอนาคตที่มั่นคงสดใส ปลอดภัยจากภยันตรายต่าง ๆ ที่จะมากรายใกล้ และจะคอยเฝ้าห่วงและดูแลเธอจนกว่าความตายจะมาแยกเธอไปจากเขา คนที่มีความรักแท้จะมีความสุข คนที่มีความรักแท้จะมั่นใจในความรัก เขาคนนั้นอยู่ที่ไหน... รักแท้เป็นฉันใด เธออยากที่จะรู้ ถ้าคุณเป็นเขาคนนั้น... วันหนึ่งคุณก็พบเธอ คุณรู้ทันทีว่า เธอคนนี้แหละที่รอคอยพบกับคุณอยู่ เธอเป็นคู่ของคุณ คู่ที่อาจจะตามมาพบจากชาติภพหนึ่งมายังอีกชาติภพหนึ่ง ถ้าคุณเชื่อว่า คนเรานั้นเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร คุณคงเชื่อว่าในแต่ละชาติภพหนึ่งนั้น คุณจะมีเนื้อคู่อยู่...คู่แท้ในชาติภพนั้น บางครั้งบางครา คู่รักในแต่ละชาติภพจะตามมาพบกับคุณในชาติภพปัจจุบัน!! แบบนี้เส้นลายมือที่เรียกว่า เส้นแห่งความรัก หรือบางคนเรียกว่า เส้นแต่งงานซึ่งอยู่ที่ด้านข้างมือ ใต้นิ้วก้อยคงจะมีมากกว่า 1 เส้น บางเส้นก็จบลงด้วยการแต่งงาน บางเส้นก็จบลงด้วยการแยกทางจากกันไปก่อนวันวิวาห์ บางเส้นอยู่ด้วยกันแบบใช้ชีวิตคู่สักระยะก็ต้องแยกกันไป เพื่อที่จะพบกับคู่อีกคนหนึ่ง นั่นอาจจะเป็นเพราะว่า คนแรกไม่ใช่คู่แท้ หรืออาจจะเป็นแค่คู่กรรม เมื่อกรรมหมดแล้วก็ต้องแยกจากกันไป รอเวลาที่จะพบกับคู่บุญ...คู่ชีวิต เธอกับเขาที่คิดตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ก็คงจะตอบว่า ไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้



แต่เธอกับเขาที่ได้รับปรากฏการณ์ตรงเหล่านั้น โดยหาคำอธิบายอย่างมีเหตุมีผลไม่ได้ก็อาจจะเชื่อว่า บุพเพสันนิวาส และพรหมลิขิตมีจริง บางคนสมหวังในความรัก บางคนผิดหวังในความรัก ไม่ว่าคุณจะสมหวังหรือผิดหวังในความรัก ก็ขออย่าให้หมดหวังในความรัก... เพราะความรักเท่านั้น ที่เป็นสิ่งค้ำจุนทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิตในโลกนี้



รักแท้เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะไม่จืดจางหายไปจากใจของเขาและเธอ



รักแท้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เธอกับเขาจะคิดถึงกันตลอดไปและสม่ำเสมอ



รักแท้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะทำให้เธอและเขามีความสุขปราศจากความระแวงในคนรัก



รักแท้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะทำให้เธอและเขามองโลกในแง่ดี มีกำลังใจที่จะประกอบกิจการต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้



รักแท้เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะไม่มีความเกลียด แม้จะโกรธกันบ้างตามวิสัยปุถุชน แต่ก็จะให้อภัยกันและระงับการโกรธได้อย่างรวดเร็ว



จะหารักแท้ได้นั้น ต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ รักแรกพบอาจจะเปลี่ยนเป็นความรักแท้ได้ แต่รักแท้นั้น ส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่รักแรกพบ รักแท้เกิดจากการฟูมฟักรดน้ำพรวนดิน ต้นไม้แห่งรักให้เจริญเติบโตงอกงามผลิดอกออกผลให้เจ้าของต้นรักได้ภาคภูมิใจ เธอกับเขา เมื่อเกิดรักแท้แล้ว จะเข้าใจกัน ไว้ใจกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เคารพนับถือซึ่งกันและกัน รวมทั้งให้อภัยกันเสมอเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำอะไรผิดพลาดไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และตั้งใจที่จะไม่กระทำผิดต่อเธอและเขาผู้เป็นที่รักอีก คนที่มีรักแท้และเข้าใจกันเท่านั้นที่จะพบความสุขของการใช้ชีวิตคู่ ไม่ว่าจะอยู่รวมกันในบ้านเดียวกัน หรือแยกกันอยู่เพราะหน้าที่การงานหรือเหตุผลส่วนตัวอื่น ๆ เธอกับเขา ในความเป็นจริงแล้ว แตกต่างทั้งในทางความคิดความอ่าน รวมทั้งการแสดงออกต่าง ๆ



จอห์นเกรย์ เขียนหนังสือพอคเก็ตบุ๊คขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เรื่อง Woman Are From Venus Men Are From Mars ก็เพราะความแตกต่างของเธอกับเขา เธอเป็นเทพธิดาผู้อ่อนหวานและน่ารักจากดาวพระศุกร์ เขาเป็นเทพบุตรนักรบผู้ห้าวหาญจากดาวอังคาร



เธอมีความเข้มแข็งซ่อนอยู่ภายใต้ความอ่อนแอที่แสดงออกทางภายนอก เขามีความอ่อนแออยู่ลึกๆ ภายใน ภายใต้สีหน้า แววตา และร่างกายที่บึกบึนของเขา เธอและเขาต่างก็มีจุดอ่อน และจุดแข็งอยู่ในตนเอง ถ้าเธอและเขารักกันเข้าใจกันแล้ว ทั้งเธอและเขาจะสามารถช่วยปิดบังจุดอ่อนของอีกฝ่ายไว้ได้ และจะช่วยกันเสริมสร้างจุดแข็งของแต่ละฝ่ายให้แสดงออกมา ...แบบนี้ รักแท้ ไม่มีทางแพ้ใกล้ชิด

17 ก.ย. 2554

เรือลำน้อย ๆ



หากชีวิตเปรียบดังทะเล ฉันคงคล้ายเป็นเรือล่องไป
ให้ลมพาพัดไป ไร้ทิศทาง สุดขอบฟ้ากว้างใหญ่
ใครรู้บ้าง สุดท้ายหนทาง จะร้ายหรือดี

มีความหวัง ฝั่งอันแสนไกล เป็นเพียงแสงรำไรอ้างว้าง
จะมีใครสักคน หรือไม่มี
หากคืนไหนไร้ดาว เหงาทุกที
ชีวิตก็อย่างนี้ อยากมีความหมาย

เราคงเป็นดั่งเรือน้อยลำหนึ่ง
ในทะเลแห่งชีวิตกว้างใหญ่ ฟ้า คลื่นลมซัดมาก็หวั่นไหว
ในใจมีแต่จุดหมายคือฝั่ง มันจะไกลสักเพียงไหนต้องไป
แม้ว่าในหัวใจไม่มีใครเลย

ฉันก็คงเป็นแค่เพียง ผงฝุ่นในสายลม ไม่มี ไม่มีความหมายใด ไม่มีใคร มรสุมพัดผ่าน ทานไว้ได้ ชีวิตวันต่อไป ไม่มีใครรู้





สูตรความสุข ล้วน ๆ..


สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่ กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้

๑. อย่าเปรียบเทียบ ชีวิตของตัว เองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขา มีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง

๒. อย่าคิดทางลบ เกี่ยวกับ เรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลก ในแง่ร้าย , ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิด ทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย

๓. อย่าทำอะไร เกินกว่าที่ตัวเองทำได้ ...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน

๔.. อย่าเอา จริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขา ไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก

๕. อย่า เสียเวลา และพลังงานอันมีค่าของคุณ กับ เรื่องหยุมหยิม หรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณ ผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง

๖. จงฝันตอนตื่น มากกว่าตอน หลับ

๗. ความ รู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว

๘. ลืมเรื่อง ขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามี หรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ

๙. ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร... จงอย่าเกลียดคนอื่น

๑๐.ประกาศ สงบศึกกับอดีตให้สิ้น , จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ

๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง

๑๒.จง เข้าใจเสียว่า ชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียน รู้ และ ปัญหาเป็น เพียง ส่วนหนึ่งของหลักสูตร ซึ่งมาแล้วก็หาย ไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรีย?รู้นั้นอยู่กับคุณตลอด ชีวิต

๑๓. จง ยิ้มและหัวเราะมากขึ้น

๑๔. คุณ ไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถก เถียงกับคนอื่น หรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกัน ได้...

เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร

แล้ว เราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้าง เราล่ะ ?

๑. อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ

๒. จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน

๓. จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง

๔. จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ

๕. พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน

๖. คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่ เรื่องของคุณสัก หน่อย

๗. งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหา สุขภาพ

ดังนั้น , อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็น อันขาด

และ ถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้ , ก็ควรจะทำ ดังต่อไปนี้

๑. ทำสิ่งที่ควรทำ

๒. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ , ไม่สวย , ไม่น่ารื่นรมย์ , จงทิ้ง ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม ?

๓. เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผล ทุกอย่างได้

๔. ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด , เดี๋ยว มันก็เปลี่ยน

๕. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน , จงลุก จากเตียง , แต่ง ตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย... get up, dress up and show up.

๖. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง

๗. ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้ , อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย

๘. เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุข เสมอ...ดังนั้น , ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า

13 ก.ย. 2554

เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม..






ท้องฟ้า... เวลาเธอมองท้องฟ้า เธอคิดถึงอะไร?



ท้องฟ้า... เป็นภาชนะที่บรรจุปุยเมฆใสๆ และรุ้งกินน้ำ

นกกระดาษ ดาวกระดาษ ที่ถูกพับด้วยหัวใจส่งไปให้ใครบางคน

ก็บรรจุอยู่ในท้องฟ้าผืนนี้...



ท้องฟ้า... เป็นภาชนะที่บรรจุปุยเมฆใสๆ และรุ้งกินน้ำ

นกกระดาษ ดาวกระดาษ ที่ถูกพับด้วยหัวใจส่งไปให้ใครบางคน

ก็บรรจุอยู่ในท้องฟ้าผืนนี้...



นอกจากนี้ท้องฟ้ายังเป็นที่ฟูมฟักรักษากลุ่มดาวลูกไก่ให้กับดาวแม่ไก่

เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ของลูกแกะนับพัน

เป็นป่าเบญจพรรณของกลุ่มดาวนายพราน อีกทั้งกระต่ายป่า

เป็นลำธารใสให้เรือลำน้อย หรือเป็นทะเลใหญ่ให้กลับหมู่ปลา ฯลฯ



ท้องฟ้า... เป็นแหล่งกำเนิดของความคิดฝันล้านพันไม่รู้จบ

เป็นแหล่งกำเนิดของนิทาน และตำนานข้ามจักรภพ

เป็นทั้งจุดจบ จุดพักระหว่างทาง และจุดเริ่มต้นใหม่

ให้กับคนที่ไม่เคยทิ้งความหวัง ไม่สิ้นกำลังใจ




บางคนบอกว่าท้องฟ้าเป็นเพื่อนคุยที่แสนดี ของใครๆ หลายๆคน

และเป็นเหมือนจอภาพยนต์ของคนหลายๆ ใจ (ว่าเข้าไปนั่น)




ท้องฟ้า... เป็นภาพมหัศจรรย์ที่รังสรรค์ทุกวินาที

ไม่เก็บเงินผู้ชมทั้งรายเดือน รายปี

ไม่มีว่านาทีแรกต้องจ่ายเท่าไหร่ นาทีถัดไปคิดอย่างไร หรือเหมาจ่าย

ที่สำคัญไม่มีดอกจัน ไม่มีตัวอักษรเล็กใหญ่




สิ่งที่เราจะต้องเสียไปในการชื่นชมท้องฟ้า ก็เพียงเวลาที่เดินไป

ต้นทุนเวลาเปรียบเทียบกับความคุ้มค่าเป็นไฉน

ของเขา ของเธอ หรือของใคร ก็ต่างกันไป




ท้องฟ้า... ท้องฟ้า...

แม้ทุกวัน ท้องฟ้าจะเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนผันและแปรไป

บางครั้งอาจจะมีพายุ บางครั้งอาจจะมีแต่เปลวแดด

แต่ท้องฟ้าก็ยังคงกว้างใหญ่ และมีความรักใสๆ รอใครที่ปลายฟ้า




ท้องฟ้า... ท้องฟ้า... ท้องฟ้า

ท้องฟ้าไม่เคยคิดที่จะอยู่ค้ำใคร และไม่มีใครที่จะอยู่ค้ำฟ้า

เครดิต สุภารัตน์




เธอเห็นท้องฟ้านั้นมั้ยยยย

เห็นเงาของเมฆหรือเปล่า

ทะเลสีคราม ที่ ทอดยาว

เห็นความ รัก ฉัน บ้าง มั้ยยยย

5 ก.ย. 2554

ความรัก กับ อากาศ..



ความรักกับอากาศ..
เธอเลือกที่จะขาดสิ่งไหน
ไม่มีอากาศ ก็ไม่มีลมหายใจ
ไม่มีความรักยังหายใจได้เหมือนทุกวัน
- - - - - -
อากาศไม่ต้องเสาะแสวงหา
แต่ความรักจะได้มาต้องบากบั่น
อากาศอาจได้มาง่ายๆและมีอยู่มากมายร้อยพัน
ส่วนความรักแม้เพียงฝันก็สุขใจ
- - - - - -
อากาศแทบไม่มีน้ำหนัก
ส่วนความรักใครก็เห็นว่ายิ่งใหญ่
อากาศไม่เคยสร้างความเสียใจ
หากความรัก ทำให้ต้องร้องไห้ มีน้ำตา
- - - - - -
อากาศทำให้ทุกชีวิตดำรงอยู่
และความรักทำให้ลมหายใจทุกอณูมีคุณค่า
อากาศมองเห็นได้ยากด้วยสายตา
ส่วนความรัก เห็นด้วยตา รู้ด้วยใจ
- - - - - -
มีอากาศโลกก็เป็นอย่างที่เป็นอยู่
มีความรักโลกจะกลายเป็นสีชมพูหวานไหว
สำหรับอากาศ เข้า-ออก ตามลมหายใจ
แต่ความรักหากมีไว้ก็ไม่อยากสูญเสียไปสักนิดเดียว
- - - - - -
ดูแลรักษาอากาศว่าลำบาก
ดูแลความรักยิ่งยุ่งยากหากไม่ชอบแลเหลียว
อากาศมากเท่าไร่ก็ไม่กลมเกลียว
ความรัก แม้บางเบาก็แน่นเหนียวและผูกพัน
- - - - - -
ส่นประกอบของอากาศสามารถบรรยาย
แต่ความรักไม่อาจอธิบายด้วยคำสั้นๆ
อากาศอาจ ดี-แย่ แต่ละวัน
ส่วนความรักนั้นจะยังคงอบอ่นกรุ่นหัวใจ
- - - - - -
“ความรัก” กับ “อากาศ”
หากถามฉัน ว่าเลือกที่จะขาดสิ่งไหน
แม้อากาศจำเป็นสักเพียงใด
แต่ในโลกที่ความรักสิ้นไร้ ก็ไม่อาจทนอยู่ได้เช่นกัน

4 ก.ย. 2554

กลอน...





อยากเก็บเกี่ยวดอกไม้ที่ปลายรุ้ง
หมายมุ่งส่งไปที่ปลายฟ้า
จุดหมายถึงคนไกลตา
ยํ้าว่าที่ห่างหาย… ยังห่วงใย

ทะเลหมอกดอกหญ้า
กับภูผาและฟ้าใส
นกน้อยและกลอยใจ
กับสายใยและไมตรี
เป็นสายใยรัก
ที่มักไม่หลีกหนี
หยิบยื่นสิ่งที่ดี
แด่เธอที่ห่างไกล





2 ก.ย. 2554

การอ่านหนังสือพิมพ์บอกนิสัย......



อ่านข่าวบันเทิงก่อน
เป็นคนที่มีความสนุกสนานรื่นเริง ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับความบันเทิงเริงรมย์ ชอบไปงานเลี้ยงสังสรรค์ ชอบดู ภาพยนตร์ สนใจเรื่องของชาวบ้าน

อ่านหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ
เป็นคนกระตือรือร้นและอยากได้ข่าวสารใหม่ๆ ตลอดเวลา ไม่ชอบที่จะเป็นคนตกข่าว เป็นคนรอบคอบละเอียดถี่ถ้วน เมื่อทำอะไรแล้วก็จะตั้งใจทำให้ดีที่สุด

อ่านข่าวในประเทศก่อน
เป็นคนที่เคารพกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ของสังคม ไม่ชอบเอาเปรียบผู้อื่นเป็นนักต่อสู้ตัวฉกาจ ปฎิบัติตัวต่อคู่ครองด้วยความรักและซื่อสัตย์ มีความจริงใจต่อเพื่อนฝูง ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจ

อ่านข่าวผ่านๆ
และเลือกอ่านข่าวเพียงบางเรื่อง เป็นคนไม่ค่อยใส่ใจต่อเหตุการณ์ของโลกนัก มักจะใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ค่อยยุ่งกับชาวบ้าน มองโลกในแง่ดี รักเพื่อน และมีน้ำใจ

อ่านข่าวภูมิภาคก่อน
หากเลือกอ่านข่าวที่เกี่ยวกับท้องถิ่นของตนเองก่อน จะเป็นคนที่รักพวกพ้องมากใครจะมาแตะต้องไม่ได้ ต้องลุยให้แหลกกันไปข้างหนึ่ง เป็นคนชอบความสงบ ไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นนอกจากพวกของตน

อ่านข่าวเกี่ยวกับการบ้านการเรือนก่อน
เป็นคนที่กระตือรือร้นและมีระเบียบ วินัย มีการวางแผนงานเฉพาะหน้าเพื่อตนเองและครอบครัว หากรักปากอะไรกับใครแล้วต้องทำได้

อ่านข่าวท่องเที่ยวก่อน
เป็นคนอยู่ไม่ติดที่ ชอบเดินทางอยู่เสมอ ถ้าหากอยู่ที่ไหนนานเกินไปจะเกิดอาการเบื่อ ต้องรีบหาเรื่องชีพจรลงเท้าทันทีรักความอิสระเสรี เป็นตัวของตัวเองสูง

อ่านข่าวกีฬาก่อน
เป็นคนชอบทำงานเป็นทีม ไม่หวั่นต่อการเสี่ยงและท้าทาย ชอบการทำงานหนักและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคต่างๆ แต่จะคิดว่าเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับตนเอง นอกจากนั้นแล้วยังเป็นคนที่ชอบการต่อสู้แข่งขันมีระเบียบวินัยสูง มักจะประพฤติตัวอยู่ในกรอบและพร้อมจะปรับปรุงตัวเอง

อ่านข่าวเศรษฐกิจก่อน
เป็นคนชอบความท้าทาย ชอบเรื่องลับสมอง และมีความสุขที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ออกมา เป็นคนที่มีความที่มีความทะเยอทะยานสูง ค่อนข้างจริงจังกับชีวิต จะทำงานที่เห็นว่าเหมาะสมกับตนเองและทุ่มเทกับการทำงานอย่างเต็มที่

อ่านเรื่องเกี่ยวกับอาหารก่อน
เป็นคนที่มีรสนิยมดี ชอบความสวยงาม ชอบให้ตนเองแวดล้อมไปด้วยสิ่งที่เจริญตา และพยายามทำตนให้เป็นที่สนใจต่อเพื่อนฝูงและคนอื่นๆ ไม่ชอบเป็นคนตกสมัยมักทำตัวเองให้อีพเดทอยู่เสมอทั้งในเรื่องการแต่ตัวแลฃะรสนิยมในการใช้ชีวิต



28 ส.ค. 2554

ดอกไม้ ปลดปล่อยความสดชื่น ให้กับห้องของเราในยามเช้า




ร้านดอกไม้ ผู้ที่ชอบปลูกดอกกล้วยไม้มักมีความละเอียดอ่อน เนื่องจากต้องดูแลเป็นอย่างดีเพื่อให้ออกดอกที่ดูดี ดอกกล้วยไม้อากาศเป็นกล้วยไม้ที่เกาะอาศัยอยู่บนต้นไม้อื่นโดยมีรากเกาะอยู่กับกิ่งไม้หรือลำต้น ธุรกิจหลายประเภทก็มักจะใช้ดอกกล้วยไม้ไทยเป็นสัญลักษณ์แสดงความสวยงาม ตอนนี้มีคนไทยหลายคนประกอบอาชีพปลูกดอกกล้วยไม้ เนื่องจากรายได้ดีและคุ้มค่ากับการลงทุน ดอกกล้วยไม้ไทยเป็นพันธุ์ไม้ที่มีเอกลักษณ์และความสวยงามแก่สายตาชาวต่างประเทศ คนไทยประสบความสำเร็จในการดัดแปลงพันธุ์กล้วยไม้ไทยให้มีความสวยงามและเหมาะสมกับการปลูกที่ง่ายขึ้นได้


ดอกกล้วยไม้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเอี้อง มีความสวยงามและมีมากมายหลายพันธุ์ ร้านจัดดอกไม้มักให้ความสำคัญกับดอกกล้วยไม้อยู่เสมอ หลายคนมักบอกรักด้วยการใช้บริการร้านจัดดอกไม้ในการส่งดอกไม้ที่ตนเองชอบให้กับคนรัก ดอกกล้วยไม้ไทยมีเอกลักษณ์ในด้านของความงามที่ไม่เหมือนใคร ดอกกล้วยไม้หินเป็นกล้วยไม้ที่ขึ้นตามโขดหินต่างๆ

ใช้ชีิวิต อย่างพอดี เปรียบได้ดั่ง การดูแลดอกไม้ อย่างเหมาะสม สร้างสันติสุขให้กับเราได้ในระยะยาวดอกไม้ พูดไปแล้วก็เปรียบได้กับการดำเนินชีวิต เพิ่มสารอาหารเยอะเกินไป ก็เน่า ใส่น้อยเกินไป ก็แห้งเหี่ยว

ขอให้มีความสุขคะ....

19 ส.ค. 2554

คิดถึง......



เสียงคลื่นซัดสาด
มองเห็นไกลสุดขอบฟ้า
มีทะเลทุกเวลาแต่บางทีไม่มีเธอ
คลื่นซัดหาฝั่งเหมือนใจร่ำคร่ำครวญหา
จากกันไปตามเวลาจากกันให้เธอสุขใจ

แต่ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ฉันพร่ำบอกให้เธอเข้าใจ
เพราะรักจริงจริง รักคือการให้ฉันให้เธอ

จะมีใครบ้างหนอ ที่พอเห็นใจ
ความรักสับสนในใจเสมอ
ถึงคร่ำครวญหา กลับมาเหมือนเคย
แต่พอเจอเธอต้องยิ้ม สุขใจ
ขอเพียงแต่ให้เธอสบาย เท่านั้นก็พอ

ฉันคิดถึงเธอ ไม่อาจบอกกับใครเขา
อยู่กับใจของตัวเรา อยู่ในความคำนึงผู้เดียว ฉันคิดถึงเธอ......

17 ส.ค. 2554

กำลังใจ.....



เรื่องทุกอย่าง เมื่อย่างไป ในชีวิต

พรหมลิขิต ผิดถูกใจ ใช่ปัญหา

หากว่าเรา เอาความคิด ที่ติดมา

เป็นปัญญา เข้าแก้ต่าง ห่าง...กังวล

ฝัน..



14 ส.ค. 2554

ในขณะที่......... ( ควันหลงวันแม่) อ่านแล้วคุณจะอึ้ง.....



ในขณะที่.... ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไป เรียน เที่ยว นอน กิน
ดึกๆ ผมก็โทรคุยกับแฟนของผม
ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของผม
และผมก็เชื่อว่าใครๆ เค้าก็ทำแบบนี้กัน
'จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าวรื้อยาง'
'กินกับอะไรบ้าง แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้าไหมเนี๊ย'
'รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง'
'ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ'

ประโยคต่างๆ ที่ผมได้คิดและคัดสรรเตรียมพร้อมมาต่างๆ ก่อนโทร
ผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์
ระยะเวลาอันผมได้ใช้ไปในแต่ละครั้งนั้น
พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว
แต่ผมก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ
ก็ไม่เห็นหรอคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน
'เอ้อ เกือบลืมไปอีกอย่าง กิจวัตรอีกอย่างหนึ่งของผมก็คือ

แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน' 'ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง'
'เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย' 'วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง' 'อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ'
โธ่! คำถามเดิมๆ ผมก็ตอบไปแบบเดิมๆ
แม่ผมก็ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ
โชคดีที่ผมพยายามตัดบทคุย
ผมกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้ว
ก็มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไง
จนกระทั่งวันนั้น 'ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย'
'เร็วๆสิ เค้ายังอุตส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วนะ'
'แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ'
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อน
ผมมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า 'Home'
'โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย'
ผมไม่สลับสายผม ผมยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป
เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิมๆ

'และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่'

หลังจากนั้นไม่นานทางญาติของผมโทรมาแจ้งผมว่า
เมื่อคืนนี้บ้านของผมถูกขโมยเข้า และแม่ของผมขัดขืน
และได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง
แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ญาติของผมเล่าอีกว่าตอนไปพบศพแม่นั้น
ในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น

และเบอร์โทรออกล่าสุดของเธอไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจ
หรือเรียกรถพยาบาล แต่แม่เลือกที่จะโทรหา 'ผม'
สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือ โทรศัพท์หาผมเพื่อฟังเสียงของผม
วินาทีนั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น
วันนั้นผมเลือกที่จะคุยกับแฟนผม ดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของผม

ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิต

ผู้หญิงคนเดียวที่ผมสามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา

โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่
ไม่ต้องมีมุข ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ

คนเดียวในโลก ที่โทรมาหาผมเพียงแค่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ

คนเดียวในโลกที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่นแพงแค่ไหนก็ยังโทรหา ผม

'และคนเดียวในโลก ที่เลือกคุยกับผมในวินาทีสุดท้ายในชีวิต'

ในบางครั้งประโยคที่ว่า 'ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว'
มันก็ไม่เป็นความจริง 'เพราะบางปรากฏการณ์ในโลก เกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว'
อาจเป็นเพราะเวรกรรมของผม

หลังจากนั้นไม่นานแฟนผมที่ผมใช้เวลาคุยกับเธอวันหลาย ๆ ชั่วโมงก็ทิ้งผมไป
วันนี้ผมเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น

หลายๆ อย่างที่คนส่วนใหญ่ทำ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป
เพราะตัวเราเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องรับผลการกระทำของเราเอง
'เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป'

ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์
รอที่จะตอบคำถามเดิมๆ ให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง
แต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว.............

อ่านแล้วซึ้งจริง ๆ ...................................

อยู่อย่างเข้มแข็ง....





อยู่อย่างเข้มแข็ง

จงเข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง... จงอ่อนแอพอที่จะรับรู้ว่าลำพังเรานั้นทำอะไรไม่ได้ทุกอย่าง... จงฟุ่มเฟือยน้ำใจ เมื่อมีใครต้องการความช่วยเหลือ...

Be strong enough to face the word each day.
จง... เข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง

Be weak enough to know you cannot do everything alone.
จง... อ่อนแอพอที่จะรับรู้ว่าลำพังเรานั้นทำอะไรไม่ได้ทุกอย่าง

Be generous to those who need your help.
จง... ฟุ่มเฟือยน้ำใจ เมื่อมีใครต้องการความช่วยเหลือ

Be frugal with what you need yourself.
จง... ประหยัดสิ่งที่จำเป็นไว้

Be wise enough to know that you do not know everything.
จง... จงฉลาดพอที่จะรู้ว่าเราไม่ได้รู้ทุกสิ่ง

Be foolish enough to believe in miracles.
จง... โง่พอที่จะเชื่อในปาฎิหาริย์

Be willing to share your joys.
จง... เต็มใจจะแบ่งปันความสุขของตัวเอง

Be willing to share the sorrows of others.
จง... เต็มใจที่จะแบ่งรับความทุกข์ของผู้อื่น

Be a leader when you see a path of others have missed.
จง... เป็นผู้นำหากทางที่ผู้อื่นทิ้งไว้ให้นั้นเลือนลาง

Be a follower when you are shrouded in the midst of uncertainly.
จง... เป็นผู้ตามหากตกอยู่ในวงล้อมแห่งความไม่แน่นอน

Be the first to congratulate an opponent who succeeds.
จง... เป็นคนแรกที่แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของคู่แข่ง

Be the last to criticize a colleague who fails.
จง... เป็นคนสุดท้ายที่จะวิจารณ์ความผิดพลาดของเพื่อน

Be sure where you next step will fall, so that you will not stumble.
จง... มองเพียงแค่ก้าวถัดไปเพราะมันจะทำให้เราไม่ล้ม

Be sure of your final destination, in case you are going to the wring way.
จง... มองไปยังจุดหมายปลายทางให้แน่ใจ ว่าไม่ได้กำลังเดินผิดทาง

Be loving to those who love you.
จง... รักคนที่รักคุณ

Be loving to those who do not love you, and they may change.
จง... รักคนที่ไม่รักคุณแล้วสักวันหนึ่ง ...เค้าอาจจะเปลี่ยนใจ

Above all, be yourself.
แต่เหนือสิ่งอื่นใด จงเป็นตัวของตัวเอง

10 ส.ค. 2554

You Are Not Alone




ชื่อเพลง : You Are Not Alone
ศิลปิน : Michael Jackson






Another day has gone
Im still all alone
How could this be
You e not here with me
You never said goodbye
Someone tell me why
Did you have to go
And leave my world so cold
วันอื่นๆที่ผ่านไป
ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังโดดเดี่ยว
วิธีที่สามารถเป็นสิ่งนี้
คุณไม่ได้อยู่กับฉันที่นี้
คุณไม่เคยบอกว่าลาก่อน
ใครบางคนบอกกับฉันว่าทำไม
ทำไมคุณจะต้องไป
ออกไปจากโลกของฉันทำให้ฉันหนาวเหน็บ

Everyday I sit and ask myself
How did love slip away
Something whispers in my ear and says
That you are not alone
For I am here with you
Though you e far away
I am here to stay
ทุกๆวันฉันนั่งถามกับตัวเอง
ทำอย่างไรความรักที่ผิดพลาดจะออกไป
บางสิ่งกระซิบอยู่ในหูของฉันอย่างแผ่วเบา ฉันพูด
นั้นคุณไม่ได้อยู่ลำพัง
สำหรับคุณฉันอยู่ที่นี้
แม้คุณไกลออกไปแสนไกล
ฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อพัก

You are not alone
I am here with you
Though we e far apart
You e always in my heart
You are not alone
คุณไม่ได้อยู่โดยลำพัง
ฉันอยู่กับคุณที่นี่
แม้เราอยู่กันคนละส่วน
คุณอยู่ในหัวใจของฉันตรอดเวลา
คุณไม่ได้อยู่ตามลำพัง

All alone
Why, oh
ทั้งหมด ลำพัง
ทำไม oh!

Just the other night
I thought I heard you cry
Asking me to come
And hold you in my arms
I can hear your prayers
Your burdens I will bear
But first I need your hand
So forever can begin
แต่พอดีในคืนนี้
ฉันคิดว่าฉันได้ยินเสียงคุณร้อง
คำถามที่จะมา
และแขนคุณอยู่ในมือของฉัน
ฉันสามารถได้ยินการสวดมนต์ของคุณ
ภาระของคุณ ที่ฉันจะทำ
แต่แรกฉันต้องการมือของคุณ
ดังนั้นสามารถเริ่มต้นได้ตลอดไป

Everyday I sit and ask myself
How did love slip away
Then something whispers in my ear and says
That you are not alone
For I am here with you
Though you e far away
I am here to stay
For you are not alone
I am here with you
Though we e far apart
You e always in my heart
And you are not alone
ทุกๆวันฉันนั่งถามกับตัวเอง
ทำอย่างไรความรักที่ผิดพลาดจะออกไป
บางสิ่งกระซิบอยู่ในหูของฉันอย่างแผ่วเบา ฉันพูด
นั้นคุณไม่ได้อยู่ลำพัง
สำหรับคุณฉันอยู่ที่นี้
แม้คุณไกลออกไปแสนไกล
ฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อพัก

Whisper three words and Ill come runnin
And girl you know that Ill be there
Ill be there
คุณไม่ได้อยู่โดยลำพัง
สำหรับฉันอยู่กับคุณที่นี่
แม้เราอยู่กันคนละส่วน
คุณอยู่ในหัวใจของฉันตลอดเวลา
คุณไม่ได้อยู่ตามลำพัง

You are not alone
I am here with you
Though you e far away
I am here to stay
You are not alone
I am here with you
Though we e far apart
You e always in my heart
กระซิบกับฉัน 3 คำแล้วกลับมา
และคุณผู้หญิงรู้ นั้น ฉันจะอยู่ที่นั้น
ฉันจะอยู่ที่นั้น

You are not alone
For I am here with you
Though you e far away
I am here to stay
คุณไม่ได้อยู่โดยลำพัง
สำหรับฉันอยู่กับคุณที่นี่
แม้เราอยู่กันคนละส่วน
คุณอยู่ในหัวใจของฉันตลอดเวลา
คุณไม่ได้อยู่ตามลำพัง

For you are not alone
For I am here with you
Though we e far apart
You e always in my heart
สำหรับคุณไม่ได้อยู่คนเดียว
สำหรับคุณฉันอยู่กับคุณที่นี่
แม้เราอยู่กันคนละส่วน
คุณอยู่ในหัวใจของฉันตลอด

For you are not alone
คุณไม่ได้อยู่ตามลำพัง



รักเธอ-โต๋

เคยไหมบางทีถ้าเธอต้องการพูดอะไรออกไป
เคยไหมบางทีคำพูดมันไม่ยอมตรงกันกับใจ
ทั้งที่พยายามและไม่ว่าจะเตรียมตัวสักขนาดไหน

เหมือนฉันอย่างที่กำลังเผชิญหน้าความเป็นจริง
และถึงแม้ข้างในพยายามพูดออกไปให้หมดทุกสิ่ง อย่างที่ตั้งใจ

* แต่มันก็เหมือนเคย ไม่ว่าจะเปิดเผยสักเท่าไร
เมื่อต้องพูดคำนั้น เสียงฉันมันก็หายไป

** (อ่านปากของฉันนะ ว่า)
(อยากจะพูดอีกครั้ง ว่า)
และจะเป็นอย่างนี้ กับเธอไม่ว่านานสักเท่าไร
ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะรักใคร
ไม่ต้องห่วงว่าฉัน เปลี่ยนหัวใจ
ฉันจะเป็นอย่างนี้ (จะ ตลอดไป)

ฉันรู้ดีว่าบางทีมันก็ดูเหมือน น่ารำคาญ
แต่ฉันจะพยายามพูดออกไปให้หมดทุกสิ่ง ให้หมดทั้งหัวใจ

(*,**)

6 ส.ค. 2554

เพียงในใจ......



ฉันรู้ดีเสมอ ว่าคนที่คู่ควรเธอ
จะต้องดีเลิศเลอและคงไม่ใช่ฉัน
เราไม่ควรพบเจอกัน มันไม่มีหนทางใด
ที่จะมาทำลายความต่างกัน

อยากบอกว่ารัก ให้เธอได้ยินเพียงสักครั้ง
แต่กลับต้องฝืนให้เสียงนั้นดังในใจ

อยากบอกให้รู้ ว่ารักเธอทั้งหัวใจ
แต่ต้องเก็บไว้อย่างนี้ตลอดมา

สุดท้ายต้องรักเธอข้างเดียวอยู่เรื่อยไป
ให้ทำยังไงก็ไม่มีทางบอก เธอเลย

ทำได้เพียงอย่างที่เคยบอกรัก แค่เพียงในใจ
แม้ความจริงต้องช้ำสักเพียงไหน ฉันยอม

แม้รักเธอแค่ไหน จะแกล้งทำเป็น ไม่มีใจ
ไม่ให้เธอรู้ตัวว่ารักเธอ

อยากบอกว่ารัก ให้เธอได้ยินเพียงสักครั้ง
แต่กลับต้องฝืนให้เสียงนั้นดังในใจ

อยากบอกให้รู้ ว่ารักเธอทั้งหัวใจ
แต่ต้องเก็บไว้อย่างนี้ตลอดมา

สุดท้ายต้องรักเธอข้างเดียวอยู่เรื่อยไป
ให้ทำยังไงก็ไม่มีทางบอก เธอเลย

ทำได้เพียง อย่างที่เคยบอกรัก แค่เพียงในใจ
แม้ความจริงต้องช้ำสักเพียงไหน ฉันยอม

สุดท้าย ต้องรักเธอข้างเดียวอยู่เรื่อยไป
ให้ทำยังไงก็ไม่มีทางบอก เธอเลย

ทำได้เพียง อย่างที่เคยบอกรัก แค่เพียงในใจ
แม้ความจริงต้องช้ำสักเพียงไหน ฉันยอม

2 ส.ค. 2554

การผ่อนคลายความโกรธ..




เมื่อเด็กโกรธจนร้องหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาก็กลับอารมณ์แจ่มใสอีกครั้ง การพักผ่อนนั้นสามารถตัดสิ่งเร้าได้ชั่วคราว

เป็นการผ่อนคลายทั้งร่างกายและความคิด หากการผักผ่อนนั้นสามารถช่วยให้เรากลับมาเริ่มต้นอยู่ในภาวะที่คุมตัวเองได้ มีเหตุผล มีสติแล้ว ยังมีวิธีอื่นอีกหรือไม่ ที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน แทนการหลับยาวๆ ในทุกครั้งที่เรารู้สึกโกรธ

ต้องขอบคุณที่มีผู้ค้นพบและให้คำตอบว่ามนุษย์สามารถผ่อนคลายง่ายๆ ได้เพียงการทำให้ร่างกายอยู่ในท่าที่สบายๆ หายใจลึกๆ ช้าๆ อยู่ในห้องที่เสียบสงบ จอจ้อกับสิ่งที่ไม่กระตุ้นอารมณ์ เช่นนับ 1-10 พูดปลอบตัวเอง เปลี่ยนอากาศไปทำกิจกรรมที่ชอบ

เช่น การฟังเพลง ดูหนัง รวมถึงการนึกเรื่องดีๆ นึกถึงสถานที่ที่ผ่อนคลายอารมณ์ในจิตนาการ

วิธีเหล่านี้ก็สามารถใช้ได้กับเด็กเช่นกัน ลองเริ่มจากวิธีการเหล่านี้บ่อย ๆ คุณจะพบกับความเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า


พ.ญ.ณัฏฐิฯ ชินนะจิตพันธุ์





ขอบคุณ : krabork.com

บอกรักให้สมหวัง..



บอกรักให้สมหวัง บางท่านกำลังหาวิธีบอกรักกับคนรัก แต่ยังกล้า ๆ กลัวอยู่ ลองใช้วิธีบอกรักตามนี้...ดูหน่อยไหมคะ



ทริคบอกรักพร้อมตุ๊กตา



สาวหวานแหววแบ๊วสุดใจอย่างเธอมีทริคที่เหมาะกับคาแรกเตอร์สุดๆ อย่างทริคตุ๊กตานี่แหละ แต่ไม่ใช่ตุ๊กตาธรรมดานะ เพราะตุ๊กตาตัวนี้จะกลายเป็นคิวปิดสื่อรักให้เธอได้เธอแหละ อัดดับแรก เธอต้องอย่าลืมว่าผู้ชายไม่ชอบถือตุ๊กตาตัวใหญ่ไปไหนมาไหน ต้องเลือกตุ๊กตาตัวเล้กเล็กหรือตุ๊กตาการ์ตูนห้อยพวงกุญแจที่เขาชอบ แล้วแขวนด้าย หรือเชือกเล้นเล็กที่ร้อยลูกปัดสีฟ้าและชมพู ทำอย่างเดียวกันกับตุ๊กตาของเธอ จากนั้นได้เธอพกตุ๊กตาสองตัวคู่กันไว้ ถึงเวลาได้ฤกษ์พร้อมเมื่อไหร่ให้เธอบอกความในใจและมอบตุ๊กตาให้เขาแล้วปิดตัวน้อยก็จะทำหน้าที่ผูกหัวใจของพวกเธอเอาไว้ ลองมี ลองมีผู้ช่วยแบบนี้โอกาสแห้วยาก !!!


ทริคบอกรักพร้อมกับดินสอแทนใจ


เคยเป็นใช่ไหม เวลาที่อยากจะพูดอะไรก็พูดไม่ออก อยากบอกอะไรก็บอกไม่ได้ก็มัวแต่อาย อ๊าย อายจนความรักบินไปหลายครั้งช้ำช้อน ยิ่งแย่แล้วใหญุถ้าอีกฝ่ายก็เข้าข่ายปากหนักยิ่งกว่าค้อนปอนด์ ชาตินี้เธอจะได้ยินคำว่ารักจากเขาสักทีไหมหนอ เอาเถอะนะ ไม่ได้ยินก็ไม่เป็นไร ให้เขาเขียนมาก็ได้ ด้วยทริคดินสอคลิกรัก แน่นอนว่าสิ่งเธอต้องมีคือดินสอกดและไส้ดินสอ เริ่มทริคด้วยการใช้ไส้ใหม่เขียนความรักที่เธออยากจะให้เป็นลงบนกระดาษไม่มีเส้น จะเขียนหรือจะวาดก้ได้แต่ต้องเก็บไว้ในบ้านและมอบดินสอที่มีไส้เหลืออีกครึ่งหนึ่งให้เขา แล้วเรื่องของเธอทั้งคู่ก็จะถุกเขียนต่อในชีวิตจริงด้วยดินสอด้ามนั้นไงล่ะ


ทริคบอกรักพร้อมซีดีเพลง



รู้ไหมว่าเสียงเพลงก็เป็นสื่อนำความรัดสู่หวใจได้ ถ้าเธอยังเซ็งกับความขี้อายของตัวเองจนไม่กล้าความในใจก็ต้องใช้ตัวช่วย ทริคนี้เหมาะสำหรับ หนุ่มอารมณ์ดี ติสท์นิดๆ เซอรืหน่อยๆ เลือกเพลงรักที่สามาถนำคำแรกของทุกเพลงมาเรียงต่อกันเป็นประโยชน์ยอกรักที่เธอตั้งใจจะบอกเขาอย่างเช่น เธออยากบอกว่า “รักเธอที่สุด” คำบอกรักขอเธอจะมาจากเพลงรัก = รักเธอไปทุกวัน เธอ=เธอ คือหัวใจขอฉัน ที่=ที่รัก สุด=สุดที่รัก โดยให้เพลงทั้งหมดเรียงเป็รลำดับแล้วเขียนคำแรกของทุกเพลงด้วยปากกาสีแดง ส่วนอื่นให้ใช้สีที่ชอบได้เลย ข้อสำคัญคือต้องเลือกเพลงที่มีความหมายดีๆ ขั้นสุดท้ายก็มอบให้กับมือ ทริคนี้ต้องรอนิดหน่อยนะ


ทริคบอกรักผ่านมือถือ


ไม่มีช่องทางบอกรักแบบไหนจะง่ายและเร็วเท่ากับการบอกรักผ่านโทรศัพท์มือถืออีกแล้ว แต่สำหรับคนที่กลัวว่าไม่ซึ่งเพราะไม่ได้มองตากันตรงๆ ก็คงต้องพึ่งทริค ก่อนอื่นติดสติกเกอร์นูนหรือกลิตเตอร์รูปหัวใจแวววาวประดับให้ทั่วโทรศัพท์ถ้าอยากใช้แต่งมือถือด้วยก็ต้องติดให้ดูครีเอทดันนิดนึง เหลือสติดเกอร์หัวใจดวงสุดท้ายเอาไว้ จนถึงวันที่เธอรวบรวมความกล้าโทรไปบอกว่ารัก ให้เธอแอบติดหัวใจดวงที่เหลือของเขายิ่งถ้าเป็นโทรศัพท์ยิ่งดี คราวนี้พวกเธอก็เหมือนมีหัวใจดวงเดียวกันแล้ว แล้วก็อย่าลังเลแก้ๆ กังๆ อยู่นะ เพราะเขาอาจจะดึงหัวใจตรงนั้นก่อนที่เธอจะได้บอกรักเขาก็ได้



ทริคช่วยเพื่อนให้สมหวัง



ถ้ารักเธอสมหวังลั้ลลากับสุดที่เลิฟจองเธอแต่ในขณะที่เพื่อยังห่อเหี่ยวคอตกเพราะรักคุดกำเริบก้คงไม่ดีแน่ ซี้กันซะขนาดนี้เธอจะแฮปปี้อยู่คนเดียวคงไม่แฟรืเท่าไหร่ งั้นมาใช้ทริคนี้ช่วยให้ความรักของเพื่อสมหวังกันดีกว่าแต่ทริคนี้ต้องทำกันเป็นทีมถึงจะเวิร์ก แท็คทัมกัน 3 – 4คน แล้วสวมสร้อยข้อมือที่ทำมาจากไหมพรมสองสีไขว้กัน ๖สีของไหมพรมต้องเป็นสีที่เพื่อนและหนุ่มที่เพื่อนปิ้งชอบนะ) แล้วเอาไหมหรมสีเพื่อไปผูกกับกระเป๋าของหนุ่มคนนั้น ส่วนสีของอีกฝ่ายก้มาผูกกับกระเป๋าเพื่อนเธอ เวลาที่เดินไปเป็นกลุ่มต้องให้เพื่อเธออยู่ตรงกลางเสมอ และถ้าเขาคนนั้นเดินไปในกลุ่มด้วยต้องให้เขายืนตรงกลางคู่กันกับเพื่อนเธอ ดันซะขนาดนี้ ถ้าไม่เห็นผลก็ให้มันรู้ไป





ขอบคุณ : krabork.com และ นิตยสาร I-Like

ความรักกับธรรมชาติ...

 




ความรักเหมือนกับ…

H2O ที่จำเป็นต่อชีวิต
หินผา ถ้ารักนี้มั่นคง
สายน้ำ ที่ไม่มีอะไรมาตัดให้สายสัมพันธ์ให้ขาดลงได้



ก้อนเมฆ ที่เราสามารถมองได้หลายรูปแบบ
ท้องฟ้า ที่จะอยู่กับเราไปทุกที่
แสงแดด ที่จะให้ความอบอุ่นกับเราเสมอ
อากาศ ไม่มีตัวตน(สัมผัสไม่ได้)

ต้นหญ้า ที่สามารถเกิดได้ทุกที่
ต้นไม้ ที่เราทั้งสองต้องดูแลและใส่ใจ(ด้วยรัก)



บ่อยครั้งที่ ความรัก ทำให้เราลืมไปในหลาย ๆ สิ่ง



ลืมว่า…

เราเคยกินข้าวคนเดียว. . . โดยไม่รู้สึกเหงา
เราถือกระเป๋าเองได้. . . โดยไม่รู้สึกหนัก
เคยเดินกลับบ้านคนเดียว. . . โดยไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องยาก



ยิ่งกับความรัก ที่คบกันเนิ่นนาน
ยิ่งเนิ่นนาน ความผูกพันก็ยิ่งมาก
เมื่อความผูกพันเริ่มมาก ชีวิตเราก็มีแต่ความเคยชิน




เคยชินที่จะกินข้าวกับเขา ดูหนังกับเขา
เดินกลับบ้านกับเขา โดยมีเขาเอื้อมมือมาถือกระเป๋าให้
ความรัก ไม่ได้ทำให้ผู้หญิงอ่อนแอลงหรอก
แต่ความรัก มักทำให้ผู้หญิงลืมการใช้ชีวิตคนเดียว



ไม่ต่างจากนาฬิกาแขวนผนัง ที่เดินบอกเวลาไปเรื่อยๆ
โดยลืมไปว่าที่นาฬิกาเดินได้นั้น เพราะมีถ่านให้พลังงานอยู่
ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่าถ่านจะหมด
เป็นไปได้…พอๆ กับความรักที่เคยมีมาจะหมดลง



ซึ่งถ้าวันที่ถ่านหมดมาถึงจริง ๆ
ถึงแม้สองเข็มนาฬิกาจะหยุดเดิน แต่เชื่อไหมว่า…เวลายังเคลื่อนไป
เวลาบนโลกนี้ไม่ได้หยุดเหมือนสองเข็มนาฬิกา
ความรักที่หมดลงแล้วนั้น ก็เช่นกัน



ความรักหมด แต่ไม่ได้หมายความว่า “ชีวิต” จะหมด
ชีวิตของเรา ยังก้าวเดินต่อไปได้เสมอ


อาจเหงาบ้าง ที่ต้องกลับมากินข้าวคนเดียว เดินคนเดียว
อาจเจ็บปวดบ้าง ที่เบอร์โทรศัพท์ที่คุ้นเคยไม่ปรากฏบนหน้าจอบ่อยๆ อีกแล้ว
แต่เชื่อไหมว่า ก่อนหน้าที่ไม่มีเขา เราก็ยังอยู่อย่างมีความสุขได้



หากชีวิตคือนาฬิกา และ เข็มสองเข็มคือความรัก



มันก็ยังมีโอกาสที่จะใส่ถ่านความรักก้อนใหม่อยู่ทุกเวลา และเข็มสองเข็มก็ยังมีโอกาสเริ่มเดินต่อไปอีกครั้งหนึ่ง. . .



สายลม ที่จะมาอย่างพลิ้วไหวหรืออาจดั่งพายุ
ทะเล ที่สามารถจัดระบบนิเวศของมันเองอย่างสมบูรณ์
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ คาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดเมื่อ ไหร่…



ขอบคุณที่มา :: kang-ka-roo

16 ก.ค. 2554

สายรุ้ง....






คิดอยู่เสมอว่า
ใจที่ด้านชาและปวดร้าว
คงจะไม่มีความรู้สึกใดๆอีก

และเมื่อหลับตาลง
น้ำตาคงจะไม่ไหลรินออกมาอีก

แต่ในความฝัน ฉันมองเห็นอย่างชัดเจน
น้ำตาแห่งความทุกข์ระทมและขมขื่นของฉัน
ยังไหลรินออกมาดั่งสายน้ำ
แล้วรวมตัวกันกลายเป็นสายรุ้ง

หัวด้านหนึ่งอยู่ใกล้ตัวของฉัน
แล้วทอดปลายยาวออกไปที่ท้องฟ้า
สายรุ้งเจ็ดสีที่ดูเหมือนดั่งมนต์มายา

ทำให้หัวใจที่ด้านชาของฉัน
สดใสมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

หัวใจที่สดใสและมีความสุข
ซึมซาบเอิบอิ่มด้วยความปีติจนยากที่จะหาคำใดมาเปรียบ

ขณะเมื่อเหิรลอยละล่องสู่สะพานสายรุ้ง
ผมยาวสลวยของฉันบินสยายไปตามลมอย่างแผ่วเบา
กระโปรงของฉันก็พลิ้วไหวไปตามลมไปมาเช่นกัน
กลัวแต่ว่าสายรุ้งนี้เมื่อปรากฏขึ้นมาไม่นาน
แล้วก็ต้องจากไป

แม้จะเป็นน้ำตาแห่งความทุกข์ระทม
แต่เมื่อปล่อยให้มันไหลออกมาตามแรงแห่งความบีบคั้น
มันก็ทำให้ฉันได้สัมผัสกับความสุขและความหอมหวาน

ฉันกลัวเหลือเกิน กลัวว่าฉันจะตื่นจากความฝัน
แล้วพบเจอกับสิ่งที่ฉันต้องร้องไห้ออกมาแม้แต่ในความฝัน
จะขอหลับอยู่ในความฝันอย่างนี้ตลอดไปจะได้ไหม?

14 ก.ค. 2554

เลือกสร้างความสุข ให้ตนเอง วิธีไหนดี....




เลือกสร้างความสุข ให้ตนเอง วิธีไหนดี


1.สร้างสุขด้วยการก่อบาปเวร 5 ประการ
เช่นล่าสัตว์ ตกปลา เป็นเกมส์กีฬา
มีสุขแต่ได้บาป ไปทุกข์ในอบายในภายหลัง
...เหมือนดื่มยาพิษ เจือหรือเคลือบ ด้วยน้ำผึ้ง อันหอมหวาน

2.สร้างสุขด้วยการให้ทาน รักษาศีล
สร้างกามาวจรกุศลจิต
อาจลำบากกาย เหน็ดเหนื่อย
อาจลำบากใจ เสียดายของ เสียดายเวลา
แต่ให้ผลเป็นสุข ทั้งโลกนี้และโลกหน้า
เหมือนทานยาขม หรือน้ำกระสายยา ที่มีรสและกลิ่นไม่พึงประสงค์
แต่ทานยานั้นแล้วหายเจ็บหายป่วยได้

3.สร้างสุขด้วยการเจริญสมาธิภาวนา
-สุขจากการบรรลุปฐมฌานสมาบัติ เพราละนิวรณ์ 5 ได้
-สุขจากการบรรลุทุติยฌานสมาบัติ เพราะละวิตก วิจารได้
-สุขจากการบรรลุตติยฌานสมาบัติ เพราะละปีติได้
-สุขจากการบรรลุจตุตถฌานสมาบัติ เพราะละสุขละทุกข์เสียได้ มีสติบริสุทธิ์
-สุขจากการบรรลุอากาสานัญจายตนะฌานสมาบัติ เพราะละรูปสัญญา ปฏิฆะสัญญา และนานัตตสัญญาเสียได้ มีสติบริสุทธิ์
-สุขจากการบรรลุวิญญานัญจายตนะฌานสมาบัติ เพราะละอากาสานัญจายตนะสัญญาได้ มีสติบริสุทธิ์
-สุขจากการบรรลุอากิญจัญญายตนะฌานสมาบัติ เพราะละวิญญานัญจายตนะสัญญาได้ มีสติบริสุทธิ์
-สุขจากการบรรลุเนวสัญญานาสัญญายตนะฌานสมาบัติ เพราะละอากิญจัญญายตนะสัญญาได้ มีสติบริสุทธิ์
เหมือนทานยาดี ต้มด้วยหม้อ มีกาก ไม่ได้กรอง แต่มีรสหอมหวาน

4.สร้างสุขด้วยฌานสมาบัติ อันสัมปยุตด้วย อภิญญา 5
เหมือนทานยาดีจากถ้วย ที่เขาสกัดไว้ด้แล้วอย่างดี กรองมาอย่างดี มีรสหอมหวาน


5.สร้างสุขด้วยการเจริญวิปัสสนากุศลจิต
-สุขจากการบรรลุปฐมฌานสมาบัติ เพราละนิวรณ์ 5 ได้ ละกิเลสสังโยชน์ได้บางเบา
-สุขจากการบรรลุทุติยฌานสมาบัติ เพราะละวิตก วิจารได้ ละกิเลสสังโยชน์ได้บางเบา
-สุขจากการบรรลุตติยฌานสมาบัติ เพราะละปีติได้ ละกิเลสสังโยชน์ได้บางเบา
-สุขจากการบรรลุจตุตถฌานสมาบัติ เพราะละสุขละทุกข์เสียได้ มีสติบริสุทธิ์ ละกิเลสสังโยชน์ได้บางเบา
เหมือนคนสุขภาพแข็งแรง ตรากกรำการงาน ทานอาหารหยาบบำรุงร่างกาย

6.สร้างสุขด้วยการละกิเลสสังโยชน์ได้
-สุขด้วยโสดาปัตติผล เพราะโสดาปัตติมัคคละสังโยชน์ 3 ได้หมดสิ้น
-สุขด้วยสกทาคามีผล เพราะสกทาคามีมัคคละสังโยชน์ 3 ได้หมดสิ้น และละกามราคะและพยาบาทได้บางเบา
-สุขด้วยอนาคามีผล เพราะอนาคามีมัคคละสังโยชน์ 5 ได้หมดสิ้น
-สุขด้วยอรหัตตผล เพราะอรหัตตมัคคละสังโยชน์ 10 ได้หมดสิ้น
เป็น สอุปาทิเสสนิพพาน
เหมือนคนสุขภาพแข็งแรง ไม่ต้องตรากกรำการงาน ทานอาหารอันประณีตบำรุงร่างกาย ภายในห้องมีสิริ

7.สุขด้วยการดับขันธ์ปรินิพพาน
-สุขด้วย สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ ด้วยเจโตวิมุติ ดับจิตตสังขารคือสัญญาและเวทนาได้
-สุขด้วย อนุปาทิเสสนิพพาน คือการดับขันธ์ปรินิพพาน สุขที่สุด ไม่ต้องเกิดอีก
เหมือนคนสุขภาพแข็งแรง ไม่ต้องตรากกรำการงาน ทานอาหารอันเป็นทิพย์บำรุงร่างกาย
เสร็จภารกิจที่จะต้องทำแล้ว ไม่มีกิจอื่นที่จะต้องทำอีกแล้ว

เจริญในธรรมครับ.




ธรรมะไทย

.